สกุลเงินยูโรอ่อนตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของสเปน ซึ่งส่งผลให้มีการเทขายสกุลเงินยูโรออกมาก่อนที่รัฐบาลสเปนจะเปิดประมูลขายพันธบัตรในช่วงเย็นวันพฤหัสบดีตามเวลาไทย
สกุลเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.05% แตะที่ 1.3116 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3123 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.63% แตะที่ 1.6020 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5919 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.51% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 81.260 เยน จากระดับ 80.850 เยน และพุ่งขึ้น 0.11% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9159 ฟรังค์ จากระดับ 0.9149 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.33% แตะที่ 1.0348 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0382 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.77% แตะที่ 0.8147 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8210 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางสเปนเปิดเผยว่า หนี้เสียในภาคธนาคารของสเปนพุ่งขึ้นแตะ 8.2% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 18 ปี และสอดคล้องกับที่นายคริสเตียน ชูลซ์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารดาเรนเบิร์กของเยอรมนีกล่าวว่า สเปนยังคงมีความเสี่ยงที่จะตกเป็นเป้าหมายของวิกฤตหนี้สาธาราณะในยูโรโซน และระบุว่า แม้รัฐบาลสเปนประสบความสำเร็จในการประมูลขายตราสารหนี้ระยะสั้นได้ถึง 3.2 พันล้านยูโร (4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (17 เม.ย.) แต่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ซึ่งเป็นดัชนีวัดภาระการชำระหนี้เมื่อถึงวันไถ่ถอนนั้น ก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วย
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) คาดว่าเ ศรษฐกิจสเปนอาจหดตัว 1.8% ในปีนี้ แต่อาจจะกลับมาขยายตัวอีกครั้งในปีหน้า
ในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย เยอรมนีขายพันธบัตรใหม่อายุ 2 ปี ได้ 4.206 พันล้านยูโร โดยมีอัตราผลตอบแทน 0.14% ซึ่งต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยูโรโซนปะทุขึ้นอีกระลอกหนึ่ง เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่า สเปนจะสามารถฟื้นฟูฐานะการเงินของประเทศได้หรือไม่
สกุลเงินเยนได้รับแรงกดดันหลังจากนายคิโยฮิโกะ นิชิมูระ รองผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวว่า บีโอเจพร้อมที่จะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมถ้าหากพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น เพื่อรับมือกับภาวะเงินฝืดภายในประเทศ
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดจะเปิดเผยดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนมี.ค. และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 เม.ย.จะอยู่ที่ 370,000 ราย ลดลงจาก 380,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้า ขณะเดียวกันคาดว่าดัชนีชี้นำเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมี.ค. และคาดว่ายอดขายบ้านมือสองจะอยู่ที่ 4.62 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 4.59 ล้านยูนิตของเดือนก.พ.