นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนมีนาคม 55 อยู่ที่ระดับ 102.1 จากระดับ 100.9 ในเดือนกุมภาพันธ์ 55 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน เนื่องจากยอดคำสั่งซื้อ ยอดขาย ปริมาณผลผลิตและผลประกอบการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจนของอุตสาหกรรมหลังเกิดเหตุอุทกภัย
โดยค่าดัชนีเกิน 100 เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันหลังวิกฤติอุทกภัยที่ผ่านมา แสดงถึงสัญญาณการฟื้นตัวอย่างชัดเจนของภาคอุตสาหกรรม ประกอบกับการเร่งผลิตของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการอุปโภคบริโภคเพื่อรองรับอุปสงค์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ โดยอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลให้ดัชนีปรับเพิ่มจากเดือนก่อนหน้า ได้แก่ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมน้ำตาล และอุตสาหกรรมชิ้นส่วนและอะไหล่ยานยนต์
จากการสำรวจในระยะที่ผ่านมาพบว่าระดับความเชื่อมั่นต่อยอดคำสั่งซื้อและยอดขายในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากภาครัฐให้ความสำคัญและกำหนดมาตรการกระตุ้นและส่งเสริมการบริโภคในประเทศให้มากขึ้น ย่อมส่งผลดีต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย และลดความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลก
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรม คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 109.5 เพิ่มขึ้นจาก 106.3 ในเดือนก.พ. โดยองค์ประกอบดัชนีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ ยอดคำสั่งซื้อโดยรวม, ยอดขายโดยรวม, ปริมาณการผลิต และผลประกอบการ
นายพยุงศักดิ์ ยังกล่าวถึงข้อเสนอแนะของผู้ประกอบการที่มีต่อภาครัฐในเดือนนี้ ได้แก่ 1.ผู้ประกอบการอยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยดูแลผลกระทบจากนโยบายค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ดังนั้นภาครัฐควรมีมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ และควรมีแผนการพัฒนาฝีมือแรงงานควบคู่กับการปรับค่าจ้างขั้นต่ำ
2. เร่งสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุน เกี่ยวกับมาตรการป้องกันภัยธรรมชาติ 3. รักษาเสถียรภาพค่าเงินบาท 4. ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงทรงตัวอยู่ในระดับสูง ภาครัฐควรทบทวนการปรับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างรอบคอบ และ 5. ตรวจสอบและเร่งแก้ไขภาวะค่าครองชีพสูง