สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (19 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวความสำเร็จในการประมูลขายพันธบัตรของรัฐบาลสเปนและฝรั่งเศส และจากข่าวที่ว่ากองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) สามารถระดมทุนจากประเทศสมาชิกได้ทั้งสิ้น 3.20 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อรับมืองกับวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป
ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.10% แตะที่ 1.3133 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพุธที่ 1.3120 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์พุ่งขึ้น 0.20% แตะที่ 1.6052 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6020 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐดีดขึ้น 0.31% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 81.530 เยน จากระดับ 81.280 เยน และขยับลงเล็กน้อย 0.04% เมื่อเทีบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9153 ฟรังค์ จากระดับ 0.9157 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.25% แตะที่ 1.0330 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0356 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.33% แตะที่ 0.8131 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8158 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้น ขานรับข่าวที่ว่ารัฐบาลสเปนสามารถระดมทุนด้วยการขายพันธบัตรอายุ 10 ปี และ 2 ปี รวมกันได้ทั้งสิ้น 2.54 พันล้านยูโร (3.33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของกรอบเป้าหมายที่วางไว้ที่ 1.5 - 2.5 พันล้านยูโร
ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ย หรือ อัตราผลตอบแทน สำหรับพันธบัตรอายุ 10 ปี อยู่ที่ 5.743% เพิ่มขึ้นจากระดับ 5.403% ในการประมูลครั้งก่อน ขณะที่ความต้องการซื้อพันธบัตรมากกว่าจำนวนที่นำออกประมูล หรือ bid-to-cover ratio อยู่ 2.4 เท่า สำหรับพันธบัตรอายุ 2 ปีนั้น อัตราผลตอบแทนลดลงมาอยู่ที่ 3.463% จาก 3.495% ในการประมูลเมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ขณะที่สัดส่วน bid-to-cover ratio อยู่ที่ 3.3 เท่า
ส่วนรัฐบาลฝรั่งเศสสามารถขายพันธบัตรระยะกลางรวมกันได้ทั้งสิ้น 7.97 พันล้านยูโร ใกล้เคียงกับเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ที่ 7.0 - 8.0 พันล้านยูโร
ทั้งนี้ ฝรั่งเศสขายพันธบัตรอายุ 5 ปีซึ่งจะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนก.พ.2560 ได้ 2.7 พันล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 1.83% เพิ่มขึ้นจาก 1.78% ในการประมูลเมื่อวันที่ 15 มี.ค. และขายพันธบัตรอายุ 2 ปีซึ่งครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนก.ย. 2557 ได้ 3.55 พันล้านยูโร และพันธบัตรอายุ 3 ปีที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนเม.ย.2558 ได้ 1.73 พันล้านยูโร
นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้แรงหนุนหลังจากไอเอ็มเอฟเปิดเผยว่า ยอดการจ่ายเงินสมทบจากประเทศสมาชิกที่สนับสนุนการเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ของไอเอ็มเอฟ เพื่อรับมือกับวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรปนั้น มีอยู่ทั้งสิ้น 3.20 แสนล้านดอลลาร์
คริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟกล่าวว่า แม้ตัวเลขดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายที่วางไว้ที่ 4 แสนล้านดอลลาร์ แต่มีอีกหลายประเทศที่ประกาศว่าจะจ่ายเงินสมทบทุนให้กับไอเอ็มเอฟในการประชุมรอบครึ่งปีของไอเอ็มเอฟที่จะมีขึ้นในเร็วๆนี้ที่กรุงวอชิงตัน ซึ่งการประชุมครั้งนี้จะมุ่งเน้นเรื่องวิกฤตหนี้ยุโรปและผลกระทบที่จะมีต่อเศรษฐกิจทั่วโลก
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน เงินปอนด์ และฟรังค์สวิส หลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 14 เม.ย. ลดลง 2,000 ราย มาอยู่ที่ 386,000 ราย ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 370,000 ราย ขณะที่ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.ร่วงลง 2.6% มาอยู่ที่ระดับ 4.48 ล้านยูนิต ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่ายอดขายบ้านมือสองจะเพิ่มขึ้นแตะที่ 4.62 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. จากเดือนก.พ.ที่ 4.59 ล้านยูนิต