นายจุน อาซูมิ รมว.คลังญี่ปุ่น ให้คำมั่นเมื่อวันเสาร์ในการประชุมของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ว่า ญี่ปุ่นจะยังคงรัดเข็มขัดทางการคลังเพื่อป้องกันผลกระทบเชิงลบต่อตลาดการเงินโลก
“การเสริมความแข็งแกร่งทางการคลัง พร้อมกับการฟื้นฟูประเทศอย่างต่อเนื่องหลังเหตุแผ่นดินไหว เป็นประเด็นที่มีความสำคัญเฉพาะหน้าสูงสุดสำหรับญี่ปุ่น" นายอาซูมิกล่าวในแถลงการณ์ที่นำเสอต่อที่ประชุมของคณะกรรมการการเงิน (IMFC) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำหนดนโยบายของไอเอ็มเอฟ
รัฐบาลญี่ปุ่นได้เสนอร่างกฎหมายฉบับหนึ่งต่อรัฐสภาเพื่อปรับเพิ่มอัตราภาษีการบริโภคของประเทศจากอัตราปัจจุบันที่ 5% สู่ระดับ 10% ภายในเดือนต.ค.2558 เพื่อระดมทุนสำหรับค่าใช้จ่ายที่กำลังเพิ่มสูงขึ้นของบริการด้านสวัสดิการในช่วงเวลาที่ประชากรเข้าสู่วัยสูงอายุ
นี่ได้กระตุ้นให้มีการถกเถียงกันทางการเมือง เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรีโยชิฮิโกะ โนดะ รวมทั้งนายอาซูมิเกี่ยวกับการปรับขึ้นภาษีตามแผนดังกล่าว ซึ่งอาจจะทำให้อุปสงค์ภายในประเทศอ่อนแรงลงและอาจกระทบการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เปราะบางของญี่ปุ่นจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิเมื่อเดือนมี.ค.2554
“เราตระหนักว่าการดำเนินมาตรการเสริมความแข็งแกร่งทางการคลังอย่างต่อเนื่องที่เพียงพอในการคงความเชื่อมั่นของตลาดนั้น เป็นภารกิจสำคัญไม่เพียงแต่สำหรับเศรษฐกิจภายในประเทศของเรา แต่ยังรวมถึงเศรษฐกิจโลกด้วย ซึ่งเราต้องทำให้สำเร็จโดยไม่รีรอ" นายอาซูมิกล่าว
ไอเอ็มเอฟระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกว่า ความเชื่อมั่นที่ลดลงต่อฐานะทางการคลังของญี่ปุ่น ซึ่งอยู่ในภาวะย่ำแย่ที่สุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วที่สำคัญๆนั้น อาจจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อตลาดการเงินโลก
ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของไอเอ็มเอฟและธนาคารโลกในเดือนต.ค.นี้
“เราหวังว่าการประชุมประจำปีที่กำลังจะมีขึ้นในโตเกียวจะเป็นแรงกระตุ้นในการเสริมความแข็งแกร่งของความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประเทศต่างๆทั่วโลก เพื่อรับมือกับความท้าทายจำนวนมากโดยการเปิดโอกาสสำหรับการหารือกันอย่างจริงจังเกี่ยวกับประเด็นต่างๆที่หลากหลาย"