นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวว่า ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากการเกิดมหาอุทกภัย ทั้งในเมืองหลวง และอีกหลายจังหวัด สร้างผลกระทบต่อการบริหาร การจัดเก็บภาษีจำเป็นต้องมีการทบทวนนโยบาย และปรับทิศทางการบริหารจัดเก็บภาษีอากรและเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 58 จำเป็นต้องเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจถึงผลกระทบและมุมมองเกี่ยวกับการแข่งขันทางเศรษฐกิจและการเติบโตของสมาชิกในกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งในครั้งนี้ได้เตรียมการศึกษาดูงาน ด้านการบริหารจัดเก็บภาษีสภาพแวดล้อมทางด้านสังคม การค้า การลงทุน ณ ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
"คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สรรพากรทั่วประเทศที่ได้ทุ่มเททำงานกันอย่างหนักเป็นผลให้สามารถจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าประมาณการแม้ในยามที่ประเทศต้องประสบกับภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แต่กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพ" นายกิตติรัตน์ กล่าว
นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า มั่นใจว่าปี 55 จะสามารถจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าประมาณการ และพร้อมที่จะยกระดับมาตรฐานการทำงานรวมทั้งการพัฒนาบุคลากรของกรมสรรพากรสู่ความเป็นสากลเพื่อรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนต่อไป
"กรมสรรพากรมีการปรับทิศทางและนโยบายการจัดเก็บภาษีให้เหมาะสมกับสภาวการณ์อย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งมีการพัฒนานวัตกรรมด้านไอทีและการให้บริการที่ดีแก่ผู้เสียภาษีอย่างต่อเนื่องไปพร้อมกัน ทำให้สามารถจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าประมาณการ" นายสาธิต กล่าว