สำนักงานสถิติแห่งชาติของสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยในวันนี้ว่า 17 ชาติสมาชิกยูโรโซนยังคงเผชิญกับความยากลำบากในการควบคุมหนี้ แม้ว่ารัฐบาลสามารถลดยอดขาดดุลงบประมาณลงมาอยู่ที่ระดับ 4.1% ของผลผลิตทางเศรษฐกิจในปี 2554 จากระดับ 6.2% ของจีดีพีในปี 2553 ก็ตาม
ข้อมูลของยูโรสแตทระบุว่า มาตรการรัดเข็มขัดที่เข็มงวดได้ส่งผลต่อยอดขาดดุลงบประมาณดังกล่าว แต่ถึงกระนั้นตัวเลขหนี้สินโดยรวมของประเทศยูโรโซนกลับเพิ่มขึ้นจากระดับ 85.3% ของจีดีพี เป็น 87.2% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่มีการรวมตัวกันของยูโรโซนในปี 2542
ทั้งนี้ สาธารณรัฐไอร์แลนด์ กรีซ และสเปน เป็น 3 ประเทศที่มียอดขาดดุลงบประมาณสูงสุด โดยยอดขาดดุลงบประมาณของไอร์แลนด์อยู่ที่ 13.1% ของจีดีพี, กรีซอยู่ที่ 9.1% และสเปนอยู่ที่ 8.5% ของจีดีพี
ส่วนยอดขาดดุลงบประมาณของ 27 ประเทศสมาชิกอียูโดยเฉลี่ยในปี 2554 อยู่ที่ 4.5% ของจีดีพี ลดลงจากระดับ 6.5% ของจีดีพีในปี 2553
ในบรรดาประเทศสมาชิกอียูที่ไม่ได้ใช้สกุลเงินยูโรนั้น อังกฤษมียอดขาดดุลงบประมาณสูงสุดถึง 8.4% ของจีดีพีในรอบปีที่สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา