สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 เม.ย.) หลังจากความอ่อนแอของข้อมูลด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ทำให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์ และหันไปถือครองสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า
ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้น 0.32% แตะที่ 1.3196 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3154 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ขยับขึ้น 0.06% แตะที่ 1.6135 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6126 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.30% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9104 ฟรังค์ จากระดับ 0.9131 ฟรังค์ แต่ขยับขึ้น 0.0.2% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 81.190 เยน จากระดับ 81.170 เยน
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.25% แตะที่ 1.0288 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0314 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.22% แตะที่ 0.8109 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8127 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่าราคาบ้านใน 20 เมืองในเดือนก.พ.ปรับลง 3.5% เมื่อเทียบรายปี แต่หากเทียบเป็นรายเดือนพบว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เมืองใหญ่ ขยับขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
นอกจากนี้ คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนเม.ย.ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 69.2 จุด จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 69.5 จุด และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 69.6 จุด
ส่วนสกุลเงินยูโร แม้ว่าดีดตัวขึ้น 0.32% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ แต่ยูโรก็ได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย นายจอร์จ โปรโวปูลอส ผู้ว่าการธนาคารกลางกรีซคาดว่า เศรษฐกิจกรีซจะหดตัวลง 5% ในปีนี้ ซึ่งเป็นตัวเลขที่แย่กว่าการคาดการณ์ในครั้งก่อน พร้อมกับกล่าวว่า กรีซอาจจะเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากอย่างยิ่งอีกครั้งหนึ่ง โดยมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้และแยกตัวออกจากยูโรโซนถ้าหากการเมืองยังไร้เสถียรภาพภายหลังการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 6 พ.ค.
กระทรวงการคลังสเปนเปิดเผยว่า สเปนประมูลขายตั๋วเงินคลังได้ทั้งสิ้น 2 พันล้านยูโร (2.6 พันล้านดอลลาร์) ในขณะที่ตลาดมีความต้องการแข็งแกร่ง ถึงแม้ว่าผลตอบแทนจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการประมูลขายในครั้งก่อน ทั้งนี้ สเปนสามารถขายตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนได้ 724 ล้านยูโร โดยมีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 0.63% เพิ่มขึ้นจาก 0.38% ในการประมูลเมื่อเดือนมี.ค. ในขณะที่ตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนประมูลขายได้ 1.2 พันล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทน 1.58% เพิ่มขึ้นจาก 0.84% ส่วนความต้องการตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนมีมากกว่าจำนวนที่นำออกประมูลขายถึง 7.6 เท่า เพิ่มขึ้นจาก 3.5 เท่าในการประมูลครั้งก่อน และความต้องการตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนอยู่ที่ 3.25 เท่า ลดลงจาก 5.6 เท่า
นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยมีการคาดการณ์ในวงกว้างว่า เฟดจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 0-0.25%