นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ(คต.) เปิดเผยว่า เมื่อเดือนม.ค.55 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป(อียู) หลายประเทศเริ่มดำเนินการเอาผิดกับการกระทำเลียนแบบผลิตภัณฑ์ บรรจุภัณฑ์ หรือฉลากสินค้าของผู้อื่นโดยไม่ได้ลอกเลียนแบบเครื่องหมายการค้า หรือที่เรียกว่า parasitic copying หรือ look-alikes หรือ copy cat
เนื่องจากปัจจุบันพบการละเมิดในลักษณะดังกล่าวจำนวนมาก ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสับสนในตัวสินค้า และอาจเกิดความเข้าใจผิดซื้อสินค้าที่ลอกเลียนแบบ จนส่งผลให้เจ้าของสิทธิสินค้าได้รับผลกระทบได้
"สินค้าที่มักจะถูกละเมิดดังกล่าว มักจะเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมของตลาด ในส่วนของสินค้าไทยที่เริ่มติดตลาดในอียู ได้แก่ เครื่องสุขภัณฑ์ เครื่องเรือน และอาหารกระป๋อง" นายสุรศักดิ์กล่าว
พร้อมแนะนำให้ผู้ประกอบการไทยต้องระมัดระวังการละเมิดการผลิตสินค้าเลียนแบบ ทั้งจากคู่แข่งในอียูหรือจากประเทศที่ 3 ที่ส่งสินค้ามาจำหน่ายในอียู เช่น จีน เวียดนาม เป็นต้น เพราะเมื่อถูกเลียนแบบสินค้า ฉลากหรือบรรจุภัณฑ์อาจทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดซื้อสินค้าเลียนแบบ และเจ้าของสินค้าตัวจริงอาจเสียหายได้