ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25 % ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ (25 เม.ย.) พร้อมกับยืนยันว่า เฟดจะยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอย่างน้อยจนถึงปีปลาย 2557 โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐในการประชุมครั้งนี้ด้วย
แถลงการณ์ภายหลังการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ระบุว่า คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีมีมติด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับ 0 - 0.25% นอกจากนี้ เฟดยังคงดำเนินโครงการขยายกำหนดเวลาไถ่ถอนหลักทรัพย์ที่เฟดถือครองอยู่ออกไป ตามที่เฟดที่ได้ประกาศไว้ในเดือนก.ย.เดือนก.ย. 2554 และจะยังคงนำเงินต้นที่ได้รับจากตราสารหนี้ของหน่วยงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ (agency) และหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนองของ agency มาลงทุนใหม่ในหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนองของ agency
ในการประชุมครั้งนี้ เฟดได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในปีนี้ เป็น 2.4 - 2.9% จากเดิม 2.2 - 2.7% ขณะเดียวกันก็ได้ปรับลดคาดการณ์อัตราว่างงานในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.8 - 8.0% จากเดิม 8.2 - 8.5% และยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปีนี้ขึ้นเป็น 1.8 - 2.0% จากเดิม 1.5 - 1.8%
ด้านภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐนั้น เฟดคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวปานกลางในช่วงหลายไตรมาสข้างหน้า และจะขยายตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมระบุว่าตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินมีราคาแพงขึ้น ขณะที่การคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาวยังคงมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ เฟดมองว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังคงชะลอตัว ส่วนอัตราว่างงานถึงแม้ว่าเริ่มปรับตัวลดลงบ้าง แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับสูง
ในการประชุมครั้งนี้ เฟดไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม หรือการใช้นโยบายผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3) ในระยะนี้