สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโรและเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยืนยันว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอย่างน้อยจนถึงปลายปี 2557 และนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานกล่าวว่า เฟดเตรียมพร้อมที่จะใช้งบดุลของเฟดเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจหากจำเป็น
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.16% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9092 ฟรังค์ จากระดับ 0.9107 ฟรังค์ และอ่อนค่าลง 0.02% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 81.330 เยน จากระดับ 81.350 เยน
ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.17% แตะที่ 1.3216 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3194 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์ดีดตัวขึ้น 0.14% แตะที่ 1.6161 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6139 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.34% แตะที่ 1.0349 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0314 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์เพิ่มขึ้น 0.15% แตะที่ 0.8140 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8128 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากเฟดยืนยันว่า จะยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอย่างน้อยจนถึงปีปลาย 2557 และหลังจากที่นายเบอร์นันเก้ออกแถลงการณ์ต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมเฟดเมื่อวานนี้ว่า เฟดเตรียมพร้อมที่จะใช้งบดุลของเฟดเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจหากจำเป็น
ในการประชุมครั้งนี้ เฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25% และยืนยันว่ายังคงดำเนินโครงการขยายกำหนดเวลาไถ่ถอนหลักทรัพย์ที่เฟดถือครองอยู่ออกไป ตามที่เฟดที่ได้ประกาศไว้ในเดือนก.ย.เดือนก.ย. 2554 นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในปีนี้ขึ้นเป็น 2.4 - 2.9% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2.2 - 2.7% และปรับลดคาดการณ์อัตราว่างงานในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.8 - 8.0% จากเดิม 8.2 - 8.5%
ส่วนในด้านภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐนั้น เฟดคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวปานกลางในช่วงหลายไตรมาสข้างหน้า และจะขยายตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป พร้อมระบุว่าตัวเลขเงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินมีราคาแพงขึ้น ขณะที่การคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาวยังคงมีเสถียรภาพ นอกจากนี้ เฟดมองว่าตลาดที่อยู่อาศัยยังคงชะลอตัว ส่วนอัตราว่างงานถึงแม้ว่าเริ่มปรับตัวลดลงบ้าง แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับสูง
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนร่วงลง 4.2% ในเดือนมี.ค. ซึ่งปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2552 และย่ำแย่กว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะลดลง 1.7% ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนกุมภาพันธ์ ถูกปรับลดลงเป็นขยายตัว 1.9% จากเดิมที่รายงานว่าขยายตัว 2.4%
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, เฟดสาขาชิคาโกจะเปิดเผยดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนมี.ค. และสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะเปิดเผยยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมี.ค.