เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) เมื่อวานนี้ว่า เฟดมีความพร้อมที่จะใช้มาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ และยังกล่าวด้วยว่า เขาเตรียมที่จะใช้งบดุลบัญชีของเฟด เพื่อกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจหากจำเป็น
แม้เฟดได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในปีนี้ขึ้นเป็น 2.4 - 2.9% จากเดิม 2.2 - 2.7% และปรับลดคาดการณ์อัตราว่างงานในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.8 - 8.0% จากเดิม 8.2 - 8.5% ในการประชุมครั้งนี้ แต่เบอร์นันเก้กล่าวว่า "เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเผชิญกับอุปสรรคมากมาย รวมถึงภาวะตึงเครียดในตลาดการเงินยุโรป และสถานะการคลังที่อ่อนแอภายในประเทศ นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐยังคงได้รับผลกระทบจากภาวะซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์และความตึงเครียดด้านการเงินภายในประเทศ ซึ่งเฟดจะต้องเตรียมรับมือ เพื่อหนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวรวดเร็วขึ้น"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงช่องว่างระหว่างทิศทางด้านนโยบายและการคาดการณ์ของประชาชนทั่วไป เบอร์นันเก้กล่าวว่า "ผมคิดว่าคณะกรรมการเฟดยินดีที่จะรับฟังความเห็นของคนส่วนใหญ่ และในบรรดาเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของเฟดเอง ก็มีมุมมองที่กว้างมาก แต่อย่างไรก็ตาม เฟดก็นำปัจจัยต่างๆ เช่นความเสี่ยงและความไม่แน่นอน มาประกอบการตัดสินใจในการกำหนดนโยบายด้วย"
"หากแนวโน้มเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ ทิศทางของนโยบายการเงินก็จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเหมาะสมด้วย" เบอร์นันเก้กล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เฟดมีวิธีการอย่างไรจึงสามารถหลีกเลี่ยงปัญหาต่างๆที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญอยู่ได้ เช่น ปัญหาเงินฝืด เบอร์นันเก้ตอบว่า "เฟดดำเนินมาตรการในเชิงรุกและค่อนข้างรวดเร็ว เพื่อพยุงเศรษฐกิจกลับมาเคลื่อนไหวในทิศทางที่เหมาะสมโดยเร็ว ด้วยการสร้างความเชื่อมั่นว่า ธนาคารพาณิชย์ของสหรัฐมีการเพิ่มทุนและปรับโครงสร้างหนี้อย่างเหมาะสม" สำนักข่าวเกียวโดรายงาน