ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ หรือกรุงเทพโพลล์ เผยดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 2/55 ของปีนี้อยู่ที่ระดับ 47.31 ปรับเพิ่มจากระดับ 28.41 ในไตรมาสแรกของปีนี้ แม้ว่ายังอยู่ในสถานะที่อ่อนแอ แต่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นมาก
ขณะเดียวกันมองภาวะเศรษฐกิจของไทยในอีก 3-6 เดือนข้างหน้าเชื่อว่าจะปรับตัวดีขึ้นจากปัจจุบัน แม้ดัชนีฯ จะปรับตัวลดลงจากไตรมาสแรกของปีนี้เล็กน้อย โดยดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในอีก 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 62.44 ลดลงจากระดับ 63.41 ในไตรมาสแรกของปีนี้ และดัชนีความเชื่อมั่นฯ ในอีก 6 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 68.24 ลดลงจากระดับ 72.19 จากไตรมาสแรกของปีนี้เช่นกัน
"ดัชนีความเชื่อมั่นนักเศรษฐศาสตร์ต่อสถานะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 47.31 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่า 50 หมายความว่า นักเศรษฐศาสตร์เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันยังอยู่ในสถานะอ่อนแอ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับการสำรวจในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2555 พบว่าสถานะทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น โดยเพิ่มขึ้น 18.90 จุดและเป็นการปรับขึ้นในทุกปัจจัยขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะปัจจัยการท่องเที่ยงจากต่างประเทศและปัจจัยการลงทุนภาคเอกชนที่ได้รับผลดีจากการเข้าสู่ช่วง high season ของการท่องเที่ยวและการลงทุนของภาคเอกชนเพื่อการฟื้นฟูกิจการหลังน้ำท่วมใหญ่" เอกสารเผยแพร่ ระบุ
สำหรับปัจจัยในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญใน 3-6 เดือนข้างหน้า ได้แก่ การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ การส่งออกสินค้า และการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ขณะที่ปัจจัยการบริโภคภาคเอกชนเป็นปัจจัยที่มีบทบาทต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับปัจจัยอื่นๆ
ทั้งนี้ กรุงเทพโพลล์ได้สำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 26 แห่ง จำนวน 60 คน ระหว่างวันที่ 20-25 เม.ย.ที่ผ่านมา