บังโค ซานตานเดร์ ของสเปน รายงานผลกำไรสุทธิไตรมาสแรกร่วงลง 24% แตะ 1.6 พันล้านยูโร (2.12 พันล้านดอลลาร์) เนื่องจากการตั้งสำรองหนี้สูญและหนี้ที่อาจจะจะสูญพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะการผิดนัดชำระสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในสเปน
ธนาคารเปิดเผยว่า รายได้ในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค.2555 เพิ่มขึ้นกว่า 8% เป็น 1.14 หมื่นล้านยูโร อย่างไรก็ตาม รายได้ดังกล่าวถูกหักลบด้วยประมาณการหนี้สิน 3.1 พันล้านยูโร ซึ่งพุ่งขึ้น 51% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2554
ซานตานเดร์ระบุว่า สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) คิดเป็น 3.9% ของสินทรัพย์ทั้งหมดของธนาคาร ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.37% โดยสัดส่วนเอ็นพีแอลในสเปนเพิ่มขึ้น 1.18% เป็น 5.75%
ทั้งนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสเปนเป็นภาคส่วนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดในยุโรป หลังจากการเติบโตของตลาดอสังหาฯได้ซบเซาลงในช่วงวิกฤตการธนาคาร โดยเจ้าของบ้านและธุรกิจในสเปนที่ผิดนัดชำระหนี้มีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
ภาคธนาคารของสเปนได้รับผลกระทบตามไปด้วยจากตลาดอสังหาฯที่อ่อนแอลง เนื่องจากธนาคารในสเปนได้ปล่อยสินเชื่อและลงทุนในช่วงที่ตลาดอสังหาฯขยายตัวคึกคัก ซึ่งประเด็นนี้เองได้สร้างความวิตกกังวลว่า สเปนอาจเป็นประเทศต่อไปที่ต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศ ตามกรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส
อย่างไรก็ตาม ซานตานเดร์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของยูโรโซนเมื่อพิจารณาจากมูลค่าตลาด ได้อาศัยผลการดำเนินงานจากธุรกิจของธนาคารในตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะในบราซิล โดยผลกำไรจากบราซิลคิดเป็น 27% ของกำไรทั้งหมดของซานตานเดร์ในไตรมาสแรก เทียบกับกำไรจากสเปนที่ 12%