สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสเปน ลง 2 ขั้น สู่ระดับ BBB+ จากระดับ A นอกจากนี้ เอสแอนด์พียังได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะสั้นของสเปน ลงสู่ระดับ A-2 จากระดับ A-1 และยังให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือ "เป็นลบ" โดยระบุว่า ปัญหาด้านการคลังของสเปนมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ เอสแอนด์พีมองว่า มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลสเปนจำเป็นจะต้องให้การสนับสนุนภาคธนาคารภายในประเทศ พร้อมระบุว่า เศรษฐกิจและสถานะการคลังของสเปนมีความเสี่ยงอย่างมากในขณะนี้
แถลงการณ์ของเอสแอนด์พีระบุว่า การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสเปนลง 2 ขั้นในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า สัดส่วนหนี้สินของรัฐบาลต่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) นั้น มีความเสี่ยงที่สูงขึ้น ในขณะที่เศรษฐกิจอยู่ในภาวะที่อ่อนแอ อันเนื่องมาจากยอดขาดดุลงบประมาณสำหรับช่วงปี 2554-2558 มีแนวโน้มที่ย่ำแย่กว่าที่เอสแอนด์พีคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และมีความเป็นไปได้ว่า รัฐบาลจำเป็นจะต้องจัดสรรเงินคงคลังมาใช้ในการสนับสนุนภาคธนาคาร ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ สถานะการคลัง, ความยืดหยุ่น และภาระหนี้สินสาธารณะของสเปน จะมีความเสี่ยงมากขึ้น
"ความกังวลในเรื่องเหล่านี้ ทำให้เราตัดสินใจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนลง 2 ขั้น" เอสแอนด์พีระบุ
ส่วนสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจมหภาคของสเปนนั้น เอสแอนด์พีได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีที่แท้จริงของสเปนลงมาอยู่ที่ระดับ หดตัวลง 1.5% ในปี 2555 และหดตัว 0.5% ในปี 2556 เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจีดีพีที่แท้จริงในปี 2555 จะขยายตัว 0.3% และขยายตัว 1% ในปี 2556
อย่างไรก็ตาม เอสแอนด์พีระบุว่า แม้สภาวะเศรษฐกิจของสเปนอ่อนแอ แต่เอสแอนด์พีเชื่อว่า รัฐบาลชุดใหม่ของสเปนได้ดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจในหลายๆด้าน ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่รัฐบาลใช้มาตรการปฏิรูปตลาดแรงงาน ซึ่งเอสแอนด์พีเชื่อว่าจะช่วยลดภาวะตึงตัวด้านโครงสร้างในปัจจุบัน และจะช่วยให้การกำหนดค่าแรงมีความยืดหยุ่นมากขึ้น