องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ซึ่งเป็นหน่วยงานขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ออกรายงานเตือนว่า ทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตแรงงาน เนื่องจากประชาชนกว่า 50 ล้านคนที่ตกงานในช่วงวิกฤตการเงินนั้น ก็ยังไม่สามารถหางานทำได้ในทุกวันนี้
ILO เปิดเผยในรายงานที่ชื่อว่า " World of Work Report 2012: Better Jobs for a Better Economy" โดยระบุว่า แม้มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจในบางภูมิภาคมีการขยายตัวที่ดี แต่สถานการณ์ด้านการจ้างงานทั่วโลกยังคงน่ากังวลและยังไม่มีสัญญาณของการฟื้นตัวในอนาคตอันใกล้นี้
รายงานระบุถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดวิกฤตแรงงานทั่วโลกว่า เป็นผลมาจากนโยบายรัดเข็มขัดด้านการคลังและมาตรการปฏิรูปตลาดแรงงานที่เข้มงวดของรัฐบาลในหลายประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว รวมทั้งภาวะขาดความเชื่อมั่นและขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ, การขาดรูปแบบการจ้างงานที่ได้มาตรฐาน และสภาพสังคมที่เต็มไปด้วยความขัดแย้ง ซึ่งอาจจะนำไปสู่ความไม่สงบทางสังคมต่อไปในวันข้างหน้า
นอกจากนี้ รายงานของ ILO ระบุว่า อัตราว่างงานของกลุ่มคนหนุ่มสาวเพิ่มขึ้นราว 80% ในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว และอัตราว่างงานของคนหนุ่มสาวในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา มีสัดส่วนสูงถึง 2 ใน 3
ILO คาดว่า การฟื้นตัวด้านการจ้างงานในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยเฉพาะในยุโรป จะยังไม่เกิดขึ้นก่อนที่จะถึงช่วงปลายปี 2559 นอกเสียจากว่า รัฐบาลจะปรับเปลี่ยนนโยบายด้านการจ้างงาน ซึ่งหากรัฐบาลใช้นโยบายที่สนับสนุนการจ้างงาน ควบคู่ไปกับการปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษี, เพิ่มการใช้จ่ายด้านการลงทุนสาธารณะและสวัสดิการสังคม ก็อาจจะช่วยให้มีการจ้างงานเกิดขึ้นราว 2 ล้านตำแหน่งในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว ในช่วง 2 ปีข้างหน้า สำนักข่าวซินหัวรายงาน