นายไมเคิล นูนัน รมว.คลังไอร์แลนด์ ปฏิเสธข้อกล่าวอ้างที่ว่า ไอร์แลนด์อาจจะติดต่อขอเงินทุนช่วยเหลือต่อไปจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หากประชาชนลงมติปฏิเสธสนธิสัญญาการคลังของสหภาพยุโรป (อียู)
ข้อกล่าวอ้างดังกล่าวมีขึ้นเมื่อวานนี้หลังจากที่เจ้าหน้าที่ของไอเอ็มเอฟกล่าวว่า ไอร์แลนด์จะขอการสนับสนุนด้านเงินทุนต่อไป หลังจากที่แผนในปัจจุบันสิ้นสุดลงในปี 2556
พรรคร่วมรัฐบาลเตือนว่า การลงมติปฏิเสธสนธิสัญญาการคลังอียู จะทำให้ไอร์แลนด์ไม่สามารถได้รับเงินช่วยเหลือภายใต้กลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) แต่จะทำให้ไอร์แลนด์ต้องหันไปพึ่งไอเอ็มเอฟ แต่นายนูนันปฏิเสธข้อกล่าวอ้างนี้
ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ไอเอ็มเอฟกล่าวว่า ไม่จำเป็นว่าประเทศผู้ขอเงินสนับสนุนจะเข้าถึง ESM หรือไม่ โดยการได้รับเงินสนับสนุนขึ้นอยู่กับกฎของไอเอ็มเอฟเท่านั้น
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส เรทติ้งส์ เซอร์วิสเซส (S&P) เมื่อวานนี้คงอันดับเครดิตระยะยาวของไอร์แลนด์ที่ BBB+ และระยะสั้นที่ A-2 โดยแนวโน้มอันดับเครดิตระยะยาวยังคงอยู่ในเชิงลบ
S&P ให้เหตุผลว่า แนวโน้มระยะยาวในเชิงลบบ่งชี้ถึงโอกาสอย่างน้อย 1 ใน 3 ในการลดเครดิตในปี 2555 หรือ 2556
การยืนยันอันดับดังกล่าวบ่งชี้ถึงการตอบสนองต่อภาวะการคลังสาธารณะในเชิงบวกในช่วงวิกฤติ โดยคาดว่าไอร์แลนด์จะสามารถออมงบประมาณได้ราว 1.24 หมื่นล้านยูโร หรือ 7.8% ของจีดีพีในช่วงปี 2555-2558