นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แถลงว่า ภาวะเศรษฐกิจในเดือนมีนาคม 2555 ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยระดับการผลิตในหลายอุตสาหกรรมปรับขึ้นมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนเกิดอุทกภัย ส่งผลให้การส่งออกในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อน การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวได้ต่อเนื่อง สำหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจ หนี้ต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากสินเชื่อการค้าและการกู้ของธนาคารพาณิชย์เพื่อปรับฐานะเงินตราต่างประเทศ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเร่งขึ้นจากราคาพลังงานเป็นสำคัญ
สำหรับการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง จากปัญหาการขาดแคลนสินค้าที่คลี่คลายลงและความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้น โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 3.7 จากระยะเดียวกันปีก่อน ตามการขยายตัวของเครื่องชี้ในทุกหมวด โดยเฉพาะการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และยอดจำหน่ายยานยนต์โดยเฉพาะรถยนต์เชิงพาณิชย์ซึ่งทำให้ปริมาณการใช้เชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นด้วย ส่วนการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากดัชนีการลงทุนภาคเอกชนที่ขยายตัวร้อยละ 9 โดยเฉพาะการลงทุนซื้อรถยนต์เชิงพาณิชย์ และการนำเข้าสินค้าทุนเพื่อใช้ในอุตสาหกรรม อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ และอุตสาหกรรมการผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ หนี้ต่างประเทศเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อการค้าและการกู้ระยะสั้นของธนาคารพาณิชย์เพื่อปรับฐานะเงินตราต่างประเทศจากการที่ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยทำธุรกรรมป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของการส่งออกและการไปลงทุนในหลักทรัพย์ต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ขระที่ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ร้อยละ 3.45 เร่งขึ้นจากเดือนก่อน ตามราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นและการทยอยจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในส่วนของน้ำมันเบนซินและแอลพีจีในภาคขนส่ง ขณะที่ราคาอาหารสดชะลอลงต่อเนื่องตามราคาเนื้อสัตว์จากปัญหาอุปทานล้นตลาดเป็นสำคัญ ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน อยู่ที่ร้อยละ 2.77 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน จากราคาในเกือบทุกหมวดโดยเฉพาะราคาอาหารสำเร็จรูป
"เศรษฐกิจ มี.ค.เริ่มมีการฟื้นตัว ทั้งด้านส่งออก บริโภค และการลงทุน รวมถึงการผลิต แต่ว่าเงินเฟ้อยังเร่งตัวขึ้นจากราคาพลังงาน โดยคาดการณ์เงินเฟ้อ 12 เดือนข้างหน้าปรับตัวขึ้นจาก 3% เป็น 3.7% รับผลจากการขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำไปก่อนหน้านี้แล้ว" นายเมธี กล่าว
สำหรับในไตรมาสแรกเศรษฐกิจฟื้นตัวทุกภาค การจ้างงานก็กลับมาปกติ รถยนต์ฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่คาดจากเดิมที่คาดว่าจะฟื้นในไตรมาส 2 ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟก็ฟื้นตัวในไตรมาสนี้
นอกจากนี้ ภาครัฐยังสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น หลังพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 ประกาศใช้เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2555 ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ การจ้างงานกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนอัตราเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง
"เศรษฐกิจที่ดีขึ้นทุกตัว ทำให้ Output Gap สปีดตัวเร็วกว่าที่ ธปท.คาดไว้ เดิมมองปลายไตรมาส 2-ต้นไตรมาส 3 อย่างไรก็ตามการเร่งตัวของเงินเฟ้อ จะไม่เป็นตัวฉุดทำให้เศรษฐกิจชะลอ เพราะกำลังซื้อในประเทศยังดีอยู่ แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวในอัตราชะลอลง แต่ยังไม่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย" นายเมธี กล่าว