ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดปรับตัวลดลงในวันนี้ หลังข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ว่าการใช้จ่ายของชาวอเมริกันขยายตัวต่ำกว่าคาดในเดือนมีนาคม ขณะที่เศรษฐกิจสเปนเข้าสู่ภาวะถดถอยเป็นครั้งที่ 2 นับตั้งแต่ปี 2552
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลดลง 32.69 จุด หรือ 0.25% แตะ 13,195.62 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 6.86 จุด หรือ 0.48% ที่ระดับ 1,396.82 จุด และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลดลง 14.28 จุด หรือ 0.45% แตะ 3,055.19 จุด
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลขยายตัว 0.3% ในเดือนมีนาคม ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 0.4% และเมื่อพิจารณาร่วมกับเงินเฟ้อ การใช้จ่ายส่วนบุคคลจะขยายตัว 0.1%
ขณะเดียวกันสถาบันสถิติแห่งชาติของสเปนเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของสเปน หดตัวลง 0.3% ในไตรมาสแรก เท่ากับในไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งการที่เศรษฐกิจหดตัวลง 2 ไตรมาสซ้อนถือว่าเศรษฐกิจถดถอย ส่วนเมื่อเทียบรายปี เศรษฐกิจสเปนหดตัว 0.4% ในไตรมาสแรก
นอกจากนี้ สถาบันจัดการด้านอุปทาน (ISM) ของสหรัฐยังเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก อยู่ที่ระดับ 56.2 ในเดือนเมษายน ลดลงจากระดับ 62.2 ในเดือนมีนาคม เนื่องจากยอดสั่งซื้อใหม่ร่วงลง โดยดัชนี PMI เดือนเมษายนถือเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2552 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 61.0