สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 เม.ย.) หลังจากมีรายงานว่าเศรษฐกิจสเปนหดตัวลงในไตรมาสแรกซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อวิกฤตหนี้ที่มีอาจจะมีต่อเศรษฐกิจในยูโรโซน
ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.11% แตะที่ 1.3237 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.3252 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สกุลเงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.21% แตะที่ 1.6231 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6265 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.51% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 79.830 เยน จากระดับ 80.240 เยน และดีดขึ้น 0.15% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9076 ฟรังค์ จากระดับ 0.9062 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง 0.48% แตะที่ 1.0418 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0468 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.55% แตะที่ 0.8176 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8221 ดอลลาร์สหรัฐ
สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงหลังจากมีรายงานว่า เศรษฐกิจสเปนหดตัว 0.3% ในไตรมาสแรกปี 2555 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีก่อน และเมื่อเทียบรายปี ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) หดตัวลง 0.4% หลังจากมีการขยายตัว 0.3% ในไตรมาสก่อนหน้า
ก่อนหน้านี้สกุลเงินยูโรได้รับแรงกดดันอยู่ก่อนแล้ว หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสเปน ลง 2 ขั้น สู่ระดับ BBB+ จากระดับ A และให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือ "เป็นลบ" โดยระบุว่า ปัญหาด้านการคลังของสเปนมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้น เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบเงินเยน หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโก อยู่ที่ระดับ 56.2 ในเดือนเมษายน ลดลงจากระดับ 62.2 ในเดือนมีนาคม และการใช้จ่ายส่วนบุคคลขยายตัว 0.3% ในเดือนมีนาคม ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัว 0.4%
นักลงทุนในตลาดปริวรรตเงินตราจับตาดูผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสและกรีซในช่วงสุดสัปดาห์นี้ รวมทั้งการประชุมธนาครกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้เช่นกัน