นางนลินี ทวีสิน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวในการเป็นประธานเปิดงานสัมมนา “พันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ของผู้ประกอบการชาวจีนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”ว่า สัดส่วนการลงทุนระหว่างไทยและจีนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ได้ขยายตัวเพิ่มสูงขึ้น โดยมีทั้งนักลงทุนจีนที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย และนักลงทุนไทยที่ไปลงทุนในประเทศจีน โดยเฉพาะการลงทุนด้านอุตสาหกรรมเกษตรและผลิตภัณฑ์เกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
พร้อมทั้งคาดว่าหมายว่า การค้าระหว่างทั้งสองประเทศจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอีก 3 ปีข้างหน้า จากปีที่ผ่านมาที่การค้าระหว่างไทยและจีนมีมูลค่าสูงถึงกว่า 58,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตลอดจนมีการพัฒนากรอบความร่วมมือต่าง ๆ เช่น กรอบความร่วมมืออนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง (หรือ GMS) เส้นทางระเบียงเศรษฐกิจเหนือใต้ (หรือ North South Economic Corridor) และกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเขตอ่าวเป่ยปู้ ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีก ภายหลังจากที่ประเทศไทยเข้าร่วมเป็นประชาคมอาเซียนในปี 2558 เนื่องจากอาเซียนมีประชากรรวมกันราว 600 ล้านคน ถือเป็นตลาดใหญ่ที่มีฐานการผลิตเดียวกัน
นอกจากนี้ การพัฒนาเส้นทางคมนาคมระหว่างไทยและจีน ทั้งทางถนน ประกอบด้วย เส้นทาง R3 R9 และ R12 เส้นทางคมนาคมทางทะเลและแม่น้ำโขง รวมทั้งเส้นทางคมนาคมทางราง จะเป็นเส้นทางหลักในการเคลื่อนย้ายสินค้าและบริการระหว่างอาเซียนและจีน ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับการลงทุนของนักธุรกิจไทยและจีน
นางนลินี กล่าวให้ความมั่นใจแก่ผู้เข้าร่วมงานว่า ประเทศไทยจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการลงทุนของนักธุรกิจและนักลงทุน โดยรัฐบาลไทยยินดีต้อนรับและสนับสนุนการลงทุนจากประเทศจีน รวมทั้งหวังว่าความเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนจะทวีความเข้มแข็งขึ้น ด้วยความร่วมมือทางการ ค้าและการลงทุนของภาคเอกชนของทั้งสองประเทศ ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบันมีนโยบายที่จะสนับสนุนการเปิดเสรีทางการค้า โดยส่งเสริมให้มีการลงทุนจากต่างประเทศที่จะนำไปสู่การพัฒนาทักษะ เทคโนโลยี และนวัตกรรมอย่างจริงจัง