นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ในฐานะโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จาการติดตามสถานการณ์ราคาและการผลิตสินค้าเกษตร โดยสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร พบว่า ในช่วงสัปดาห์นี้คือระหว่างวันที่ 30 เมษายน - 6 พฤษภาคม 2555 สินค้าที่ต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเนื่องจากแนวโน้มราคาสินค้าลดลง ได้แก่ สับปะรดโรงงาน กุ้งขาวแวนนาไม ปาล์มน้ำมัน และไข่ไก่
โดยปาล์มน้ำมันขณะนี้ พบว่า ราคาผลปาล์มสดที่เกษตรกรขายได้นั้นลดลง เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลง รวมถึงผลผลิตปาล์มน้ำมันจะออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีผลผลิตปาล์มสดออกสู่ตลาดจำนวน 1.133 ล้านตัน คิดเป็นน้ำมันปาล์มดิบ 0.193 ล้านตัน ขณะที่ความต้องการใช้ปาล์มน้ำมันกลับทรงตัว
ดังนั้น กระทรวงเกษตรฯ คาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลทำให้ราคาผลปาล์มที่เกษตรกรขายได้ในเดือนพฤษภาคมมีแนวโน้มลดลง โดยปัจจุบันราคาปาล์มน้ำมันมากกว่า 15 กก.ขึ้นไปที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 5.48 บาท/กก. ซึ่งลดลงกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 1.62 ขณะที่ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรอยู่ที่ 2.90 บาท/กก.
ส่วนไข่ไก่นั้น พบว่าในช่วงต้นเดือนเมษายนราคาไข่ไก่ยังคงลดลง เนื่องจากเป็นช่วงโรงเรียนปิดเทอม และมีวันหยุดต่อเนื่อง การบริโภคโดยรวมก็ลดลง แต่ทั้งนี้ คาดว่าในเดือนพฤษภาคมราคาไข่ไก่จะปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากสถานศึกษาเปิดภาคเรียน
สำหรับกุ้งขาวแวนนาไมสถานการณ์ราคาก็ลดลงเช่นเดียวกัน เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดส่งผลทำให้เกษตรกรต้องเร่งจับกุ้งขาย จึงทำให้ตัวกุ้งไม่ได้ขนาดและคุณภาพตามที่ตลาดต้องการ โดยราคากุ้งขาวแวนนาไมขนาด 70 ตัว/กก. ในสัปดาห์นี้อยู่ที่ 110.84 บาท/กก. ลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 5.08
อย่างไรก็ตาม สำหรับสินค้าที่ออกสู่ตลาดตามฤดูกาล พบว่า ราคาสูงขึ้น ได้แก่ ทุเรียน และมังคุด เนื่องจาก พ่อค้าเริ่มกลับมาซื้อทุเรียนมากขึ้นหลังจากหยุดยาวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ขณะที่มังคุดรุ่นแรกใกล้จะหมด และรุ่นสองเริ่มออกสู่ตลาด ขณะที่เงาะโรงเรียนแนวโน้มราคาจะลดลง เนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น
นอกจากนี้ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ยังได้ติดตามสินค้าที่มีมูลค่าการผลิตมาก ได้แก่ ยางพาราแผ่นดิบชั้น 3 พบว่า ราคาสูงขึ้นเล็กน้อยตามทิศทางตลาดล่วงหน้า TOCOM ประกอบกับภาคใต้มีฝนตกในบางพื้นที่ โดยราคายางพาราในสัปดาห์นี้อยู่ที่ 105.30 บาท/ กก. เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 1.82 ซึ่งอยู่ที่ 103.42 บาท/กก ส่วนในภาคปศุสัตว์ ได้แก่ สุกร และไก่เนื้อนั้น ก็พบว่า ราคาสูงขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนและแปรปรวนทำให้ผลผลิตลดลง ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่จะใกล้เคียงกับสัปดาห์นี้ ยกเว้น ผลไม้ภาคตะวันออกและปาล์มน้ำมันที่ราคามีแนวโน้มลดลง