หนังสือพิมพ์จาการ์ตาโพสต์รายงานโดยอ้างอิงคำกล่าวของนายนายเจโร วาซิค รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรพลังงานและแร่ธาตุ ว่า อินโดนีเซียจะจัดเก็บภาษีส่งออกสำหรับสินค้าโภคภัณฑ์แร่ 14 ชนิด ในอัตราระหว่าง 20-50% หากมีการจำหน่ายในรูปสินแร่
นายวาซิคกล่าวว่า นโยบายด้านภาษีของรัฐบาลจะประกาศในวันที่ 6 พ.ค. ซึ่งจะตามด้วยการประกาศฎระเบียบใหม่ เพื่อเอื้อให้ดำเนินในนโยบายในทางกฏหมาย
สำหรับสินค้าโภคภัณฑ์แร่ 14 ชนิดประกอบด้วยทองแดง, ทองคำ, เงิน, ดีบุก, ตะกั่ว, โครเมียม, โมลิบดินัม, พลาตินัม, บ็อกไซต์, แร่เหล็ก, เหล็กกรวด (iron sand), ทองคำขาว, สังกะสี และพลวง
นอกจากนี้ นายฮัตตา ราจาซา รัฐมนตรีประสานงานกระทรวงเศรษฐกิจ เปิดเผยว่าการเก็บภาษีส่งออกนั้นไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มรายรับของประเทศ แต่เพื่อลดแรงจูงใจไม่ให้บริษัทเหมืองแร่จำหน่ายแร่ในรูปสินแร่
กฎระเบียบด้านแร่และถ่านหินในปี 2552 กำหนดว่าในปี 2557 ห้ามไม่ให้บริษัทเหมือนแร่ทุกแห่งในอินโดนีเซียส่งออกวัตถุดิบ ขณะเดียวกันรัฐบาลอินโดนีเซียมีแผนที่จะเก็บภาษีการส่งออก เพื่อป้องกันไม่ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในประเทศมากเกินไป และป้องกันไม่ให้เกิดภัยอันตรายทางสิ่งแวดล้อมที่รุนแรงมากเกิน สำนักข่าวซินหัวรายงาน