นายคนิสร์ สุคนธมาน กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาส 1/55 (มกราคม-มีนาคม 55) ธสน. มีกำไรสุทธิ 159 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 146 ล้านบาท
ทั้งนี้ รายได้ดอกเบี้ยรับสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 32 เนื่องจากเงินให้สินเชื่อเฉลี่ยในไตรมาส 1/55 เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย สูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 54 ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลงร้อยละ 5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
สำหรับยอดคงค้างเงินให้สินเชื่อ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 55 เท่ากับ 64,371 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 3 จากช่วงเดียวกันของปี 2554 ที่มียอดคงค้างเงินให้สินเชื่อเท่ากับ 62,571 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของสินเชื่อระยะยาวในประเทศ โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อขยายกำลังการผลิตและสินเชื่อพาณิชยนาวี นอกจากนี้ หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-performing Loans: NPLs) ณ สิ้นเดือนมีนาคม 55. เท่ากับ 3,374 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.24 ของยอดเงินให้สินเชื่อลดลงจากช่วงเดียวกันของปี 54 ที่มียอดอัตราส่วนเท่ากับร้อยละ 5.54
ในไตรมาส 1/55 ธสน. ได้อนุมัติวงเงินให้แก่ผู้ประกอบการเพิ่มขึ้นจำนวน 5,784 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนเพื่อการส่งออกและนำเข้า จำนวน 1,504 ล้านบาท และวงเงินสินเชื่อระยะยาวเพื่อการลงทุนและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศจำนวน 4,280 ล้านบาท โดยในเดือนมกราคม-มีนาคม 55 ธสน. มีปริมาณธุรกิจสะสมของสินเชื่อเพื่อการส่งออกและนำเข้าจำนวน 39,570 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในด้านของบริการรับประกันการส่งออก ซึ่งเป็นบริการที่จะช่วยป้องกันความเสี่ยงให้แก่ผู้ส่งออกไทยจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศที่เกิดจากความเสี่ยงทางการค้าและความเสี่ยงทางการเมือง เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ส่งออกในการขยายการส่งออกไปยังตลาดเดิมและตลาดใหม่ ในเดือนมกราคม-มีนาคม 55 ธสน. มียอดแจ้งรับประกันการส่งออกจำนวน 32,414 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 54 และยอดภาระผูกพันการรับประกันการส่งออก ณ สิ้นเดือนมีนาคม 55 เท่ากับ 46,138 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
สำหรับการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการสนับสนุนผู้ส่งออกขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 55 ธสน. ได้อนุมัติวงเงินให้แก่ผู้ส่งออก SMEs เพิ่มขึ้นจำนวน 1,741 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 30 ของวงเงินอนุมัติสินเชื่อทั้งหมด นอกจากนี้โครงการมาตรการทางการเงินเพื่อสนับสนุนการประกอบธุรกิจพาณิชยนาวีตามที่ ธสน. ได้รับมอบหมายจากกระทรวงการคลัง ได้มีการอนุมัติวงเงินให้แก่ผู้ประกอบการตามโครงการในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 55 เพิ่มเติมอีกจำนวน 586 ล้านบาท โดยเป็นยอดอนุมัติรวมทั้งโครงการจำนวน 3,666 ล้านบาท และมียอดเบิกถอนสินเชื่อตามโครงการ ณ สิ้นมีนาคมจำนวน 324 ล้านบาท
"ในปี 55 ธสน. จะมุ่งเน้นการสนับสนุนศักยภาพในการแข่งขันของผู้ส่งออก SMEs ทั้งในด้านการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน อันได้แก่ สินเชื่อระยะสั้นและระยะยาวเพื่อการส่งออก นำเข้า และการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ และบริการรับประกันการส่งออก และความช่วยเหลือด้านอื่นที่นอกเหนือจากการเงิน ได้แก่ การเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจในการทำธุรกิจส่งออกแก่ผู้ส่งออก SMEs การเตรียมความพร้อมแก่ผู้ประกอบการเพื่อเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 58 และการสนับสนุนสินเชื่อตามนโยบายรัฐบาลเพื่อการพัฒนาประเทศ" นายคนิสร์ กล่าว