นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยังคงคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตลอดระยะเวลาที่เหลือของปีนี้ โดยมีอุปสงค์จากต่างประเทศ อัตราดอกเบี้ยต่ำในยูโรโซน และมาตรการทางนโยบายเป็นปัจจัยขับเคลื่อน แม้แนวโน้มเศรษฐกิจยังเผชิญความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้ยุโรปก็ตาม
ในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของอีซีบี ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ในวันนี้ นายดรากิระบุว่า จากการวิเคราะห์เศรษฐกิจและการเงินตามปกติ อีซีบีตัดสินใจคงดอกเบี้ยที่ระดับเดิม โดยระบุว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงมีแนวโน้มที่จะอยู่เหนือระดับ 2% ต่อไปในปีนี้ โดยสาเหตุหลักมาจากราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงอัตราภาษีทางอ้อมที่ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม อีซีบีคาดว่า ความเคลื่อนไหวของราคาจะยังคงมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ อีซีบียังคงคาดการณ์เงินเฟ้อสำหรับเศรษฐกิจยูโรโซนโดยยึดตามเป้าหมายในการรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 2% เล็กน้อยในระยะกลาง โดยในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อีซีบีได้เริ่มดำเนินมาตรการนโยบายการเงินทั้งที่เป็นมาตรฐานและไม่มาตรฐาน มาตรการต่างๆเหล่านี้ส่งผลดีต่อทั้งสภาพแวดล้อมทางการเงินและนโยบายการเงิน ซึ่งอีซีบีจะติดตามความคืบหน้าจากการใช้มาตรการต่างๆเหล่านี้ต่อไปอย่างใกล้ชิด โดยตระหนักเสมอว่า มาตรการนโยบายการเงินแบบพิเศษทั้งหมดที่ธนาคารนำมาใช้นั้น เป็นเพียงมาตรการชั่วคราว และอีซีบีจะยังคงศักยภาพอย่างเต็มที่ในการรับประกันเสถียรภาพด้านราคาในระยะกลาง
จากการเปิดเผยของสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตทนั้น อัตราเงินเฟ้อซึ่งวัดจากดัชนีราคาผู้บริโภค (HICP) ของยูโรโซน อยู่ที่ 2.6% ต่อปี ในเดือนเม.ย. จากระดับ 2.7% ในช่วง 4 เดือนก่อน
เมื่อพิจารณาจากราคาสัญญาล่วงหน้าของสินค้าโภคภัณฑ์ต่างๆ อัตราเงินเฟ้อรายปีน่าจะลดลงมาอยู่ในระดับต่ำกว่า 2% ได้อีกครั้งในช่วงต้นปี 2556 แต่ถึงกระนั้น อีซีบีจะระมัดระวังเป็นพิเศษเกี่ยวกับสัญญาณใดๆก็ตามที่บ่งชี้ว่า ต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้นจะส่งผลไปถึงค่าแรง ผลกำไร และการกำหนดราคาสินค้าโดยทั่วไป อย่างไรก็ดี จากแนวโน้มการขยายตัวที่ระดับปานกลางในยูโรโซนและการคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะยาว อีซีบีมองว่า แรงกดดันด้านราคาน่าจะยังคงอยู่ในกรอบที่จำกัด
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจไตรมาสแรกที่มีการเปิดเผยแล้วนั้นยังคงสอดคล้องกับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับต่ำอย่างต่อเนื่อง สัญญาณล่าสุดหลายอย่างจากผลสำรวจยูโรโซนตอกย้ำให้เห็นถึงความไม่แน่นอนที่มีอยู่ทั่วไป อย่างไรก็ดี ในขณะเดียวกัน มีข้อมูลบ่งชี้ว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกกำลังมีความคืบหน้า อีซีบีจึงยังคงคาดว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะค่อยๆฟื้นตัวขึ้นตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปี โดยได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการในต่างประเทศ อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในยูโรโซนที่อยู่ในระดับต่ำมาก และมาตรการทั้งหมดที่ถูกนำมาใช้เพื่อส่งเสริมการทำงานอย่างเหมาะสมของเศรษฐกิจยูโรโซน
อย่างไรก็ตาม คาดว่า สถานการณ์ที่ยังคงตึงเครียดในตลาดตราสารหนี้ของสมาชิกยูโรโซนบางประเทศและผลกระทบที่มีต่อสภาพเครดิต ตลอดจนกระบวนการปรับดุลบัญชีในภาคการเงินและนอกภาคการเงิน รวมทั้งการว่างงานสูง จะยังคงมีผลต่อแรงกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
"ดังที่เราได้กล่าวก่อนหน้านี้ แนวโน้มเศรษฐกิจยังคงเผชิญความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องเป็นพิเศษกับสถานการณ์ตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตลาดตราสารหนี้ยูโรโซน และความเป็นไปได้ที่จะลุกลามไปยังเศรษฐกิจที่แท้จริงของภูมิภาค ตลอดจนอาจทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นอีก" แถลงการณ์ระบุ
ทั้งนี้ ประธานอีซีบียังได้เรียกร้องให้รัฐบาลประเทศต่างๆ ให้ความสำคัญกับการผลักดันการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ขณะเดียวกันก็ยังคงเดินหน้าปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณต่อไป รวมถึงดำเนินการปฏิรูปเชิงโครงสร้างอย่างเด็ดเดี่ยว
ถ้อยแถลงของนายดรากิมีขึ้นหลังจากที่อีซีบีประกาศคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมวันนี้