เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินเยน และปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ หลังจากที่นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) แสดงความเห็นที่ค่อนข้างเป็นบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน ซึ่งทำให้ลดกระแสคาดการณ์ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยหรือการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม อาทิ LTRO
เงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.2% แตะที่ 105.69 เยน ณ เวลา 10.55 น.ในนิวยอร์ก หลังจากที่วานนี้ ร่วงลงแตะ 105.13 เยน ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่าที่สุดนับตั้งแต่ 16 เม.ย.
ขณะที่เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ยูโรขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.3151 ดอลลาร์ หลังจากที่ร่วงลงถึง 0.5% ก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ ธนาคารกลางยุโรปมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1% ในการประชุมวันนี้
เงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากที่นายดรากิออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมว่า อีซีบียังคงคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปตลอดระยะเวลาที่เหลือของปีนี้ โดยมีอุปสงค์จากต่างประเทศ อัตราดอกเบี้ยต่ำในยูโรโซน และมาตรการทางนโยบายเป็นปัจจัยขับเคลื่อน แม้แนวโน้มเศรษฐกิจยังเผชิญความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้ยุโรปก็ตาม
เขายังกล่าวถึงเงินเฟ้อด้วยว่า มีแนวโน้มที่จะอยู่เหนือระดับ 2% ต่อไปในปีนี้ โดยสาเหตุหลักมาจากราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงอัตราภาษีทางอ้อมที่ปรับตัวขึ้น อย่างไรก็ตาม อีซีบีคาดว่า ความเคลื่อนไหวของราคาจะยังคงมีเสถียรภาพ
นักวิเคราะห์หลายรายระบุว่า ถ้อยแถลงของนายดรากิมีท่าทีที่อ่อนลงกว่าทุกครั้ง ซึ่งช่วยให้ค่าเงินยูโรดีดขึ้นจากระดับต่ำ โดยเงินยูโรร่วงลงก่อนหน้านี้ จากผลประมูลพันธบัตรสเปน
สเปนระดมทุนได้ตามเป้าหมายสูงสุด 2.5 พันล้านยูโร (3.29 พันล้านดอลลาร์) ในการประมูลขายพันธบัตรอายุ 3 ปีและ 5 ปีในวันนี้ อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรทุกประเภทพุ่งสูงขึ้น ซึ่งการประมูลพันธบัตรในวันนี้ถือเป็นครั้งแรกหลังจากที่สเปนถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือโดยเอสแอนด์พีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว