นายสมชาย พรรัตนเจริญ นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย คาดว่า ประมาณเดือนมิ.ย.นี้ จะมีสินค้าอุปโภค-บริโภคหลายรายการเริ่มทยอยปรับขึ้นราคา หลังจากไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากทั้งการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 300 บาท/วัน และค่าขนส่งที่ปรับเพิ่มขึ้นจากต้นทุนราคาพลังงาน
ทั้งนี้ คาดว่าราคาสินค้าที่จะปรับขึ้นจะเฉลี่ยประมาณ 10% ในเฉพาะกลุ่มสินค้าที่ต้องใช้แรงงานจำนวนมาก รวมทั้งสินค้าที่ต้องใช้ผลผลิตทางธรรมชาติเป็นวัตถุดิบ ซึ่งช่วงนี้มีราคาเพิ่มขึ้นจึงจำเป็นต้องปรับขึ้นราคาตามต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ส่วนสินค้าที่ใช้เครื่องจักรในการผลิตก็อาจจะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทไม่มากนัก โดยอาจจะมีการปรับขึ้นราคาสินค้าน้อย
อย่างไรก็ตาม สำหรับสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น สบู่, ยาสีฟัน, ยาสระผม แม้จะยังไม่มีการปรับขึ้นราคา แต่ผู้ผลิตได้หันมาใช้รูปแบบการปรับลดโปรโมชั่นต่างๆ ลงแทน
นายกสมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย ยังกล่าวถึงสินค้าจากโรงงานที่ส่งให้กับผู้ค้าส่งหลังฟื้นฟูจากน้ำท่วมว่า ส่วนใหญ่โรงงานต่างๆ เริ่มผลิตและส่งสินค้าได้ตามปกติแล้ว โดยยังมีสินค้าประมาณ 20-30% เท่านั้นที่ยังขาดอยู่ แต่สถานการณ์ไม่ได้รุนแรง เพราะผู้ประกอบการได้ใช้ธีนำเข้าจากต่างประเทศมาทดแทน ส่วนกำลังซื้อของประชาชนจากที่สังเกตจากยอดขายสินค้าในขณะนี้ยอมรับว่า ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดือนเม.ย. เนื่องจากประชาชนมีภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ มากขึ้นในช่วงใกล้เปิดเทอม