นายยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเม.ย.55 ที่ปรับลดลงมาก จนถูกหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์ว่ากระทรวงพาณิชย์ตกแต่งตัวเลขว่า ตัวเลขที่กระทรวงพาณิชย์จัดทำทุกเดือนไม่สามารถตกแต่งตัวเลขได้ เพราะหากตกแต่งเดือนนี้ เดือนต่อๆ ไปก็ต้องตกแต่งอีก เพื่อให้ตัวเลขสอดคล้องกัน หากจะมีการตกแต่งตัวเลขจริงก็น่าจะทำตั้งแต่เดือนที่ตัวเลขขยายตัวสูง อย่างในเดือนมี.ค.55 ที่เงินเฟ้อสูงถึง 3.45% ไม่น่าจะเพิ่งทำเดือนเม.ย.ที่ตัวเลขลดลงแล้ว
ขณะเดียวกัน ยืนยันว่าการเมืองไม่สามารถแทรกแซงการคำนวณเงินเฟ้อหรือสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ตกแต่งตัวเลขเงินเฟ้อให้ลดลงได้ เพราะก่อนการแถลงข่าวเงินเฟ้อทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน จะไม่มีการรายงานให้ รมว.พาณิชย์ทราบก่อน เพราะเกรงว่าอาจถูกแทรกแซงเหมือนในอดีต ดังนั้น รมว.พาณิชย์ จะทราบข่าวหลังจากแถลงข่าวแล้ว จึงไม่มีทางที่ฝ่ายการเมืองจะแทรกแซงได้
ส่วนกรณีที่ราคาสินค้าที่สำรวจในตลาดสดไม่ตรงกับราคาที่นำมาจัดทำเงินเฟ้อนั้น เป็นเพราะราคาที่นำมาจัดทำเงินเฟ้อเป็นราคาเฉลี่ยในเดือนนั้น และเป็นราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ ไม่ใช่ราคาที่ขึ้นลงเป็นรายวันเหมือนราคาในตลาดสด ดังนั้นจึงไม่มีทางที่จะตรงกันได้
"ตัวเลขเงินเฟ้อจึงไม่มีการปั้นแต่งขึ้นมาแน่นอน เพราะเป็นเรื่องยากที่จะทำได้ ซึ่งหากตัวเลขบิดเบือนไม่ใช่กระทบต่อความน่าเชื่อถือของกระทรวงพาณิชย์เท่านั้น ยังกระทบต่อโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นการมัดคอกระทรงพาณิชย์เองที่ต้องมานั่งตกแต่งตัวเลขในทุกๆ เดือน ผมขอท้าว่าหน่วยงานไหนหรือแม้กระทั่งฝ่ายค้าน หากเห็นว่าข้อมูลของกระทรวงพาณิชย์ไม่ถูกต้องหรือบิดเบือนก็ให้หาข้อมูลมาเปรียบเทียบกันได้ แต่กระทรวงพาณิชย์ยืนยันว่าราคาสินค้าในเดือนเม.ย.ปีนี้ต่ำกว่าเดือนเดียวกันของปีก่อนแน่นอน" นายยรรยงกล่าว
ด้านนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์และอธิบดีกรมการค้าภายใน จัดทีมออกตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าว่ามีการเคลื่อนไหวผิดปกติหรือไม่ โดยหากพบว่ากลุ่มสินค้าใดปรับราคาขึ้นสูงและกระทบต่อประชาชนก็ให้เชิญผู้ประกอบการมาหารือ เพื่อหาแนวทางดูแลภาวะค่าครองชีพประชาชน โดยจะรายงานให้ประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจในสัปดาห์หน้ รับทราบและหาแนวทางแก้ไข
รมว.พาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการโชห่วยช่วยชาติหรือร้านถูกใจว่า ขณะนี้มีร้านค้าสมัครเข้าโครงการแล้วกว่า 6,000 ร้านค้า และได้ทยอยเปิดไปบางส่วนแล้ว โดยสัปดาห์หน้าตนจะเดินทางไปเยี่ยมร้านค้าที่เปิดบริการแล้ว ซึ่งในช่วงแรกอาจต้องปรับปรุงในเรื่องการกระจายสินค้า และความล่าช้าจากการจัดซื้ออุปกรณ์ แต่ยืนยันว่ายังเดินหน้าโครงการและไม่มีคำสั่งให้หยุดโครงการจากรัฐบาล