ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าหลังตัวเลขจ้างงานสหรัฐน่าผิดหวัง

ข่าวต่างประเทศ Saturday May 5, 2012 08:13 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆยกเว้นเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 พ.ค.) หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้นักลงทุนกว้านซื้อเงินดอลลาร์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

สกุลเงินยูโรอ่อนค่า 0.46% เมื่อเทียบเงินดอลลาร์ ที่ระดับ 1.3089 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.3150 ดอลลาร์/ยูโร เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ขณะที่เงินปอนด์ก็อ่อนค่า 0.19% เมื่อเทียบเงินดอลลาร์ ที่ 1.6150 ดอลลาร์/ปอนด์ จาก 1.6181 ดอลลาร์/ปอนด์

เงินดอลลาร์แข็งค่า 0.44% เมื่อเทียบเงินฟรังค์สวิส แตะที่ 0.9175 ฟรังค์/ดอลลาร์ จาก 0.9135 ฟรังค์/ดอลลาร์ แต่อ่อนค่า 0.45% เมื่อเทียบเงินเยน ที่ระดับ 79.830 เยน/ดอลลาร์ จาก 80.190 เยน/ดอลลาร์

เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่า 0.79% เมื่อเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ แตะ 1.0181 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 1.0262 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ขณะที่เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนค่า 0.53% เทียบเงินดอลลาร์สหรัฐ ที่ 0.7952 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.7994 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

นักลงทุนกว้านซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐและเงินเยนซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้นเพียง 115,000 ตำแหน่ง ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 160,000-170,000 ตำแหน่งโดยประมาณ ขณะที่อัตราว่างงานลดลงแตะที่ระดับ 8.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 39 เดือน เทียบกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะทรงตัวที่ 8.2%

ตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.นับว่าน้อยที่สุดในรอบ 6 เดือน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 154,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ได้รับการปรับทบทวนขึ้นจากระดับ 120,000 ตำแหน่งในรายงานเบื้องต้น

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ ก็เพิ่งเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพียง 119,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 170,000 — 177,000 ตำแหน่งโดยประมาณ

ขณะเดียวกันเงินยูโรอ่อนค่าลงเพราะนักลงทุนวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจและการเมืองในยูโรโซน เนื่องจากเศรษฐกิจของชาติสมาชิกยูโรโซนหลายประเทศเข้าสู่ภาวะถดถอยซ้ำ ขณะที่อัตราว่างงานในยูโรโซนก็พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี นอกจากนั้นแล้ว การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในวันอาทิตย์นี้ยังทำให้ตลาดวิตกกังวล เนื่องจากนักวิเคราะห์เชื่อว่า นายฟรองซัวส์ โอลลองด์ หัวหน้าพรรคสังคมนิยมฝรั่งเศสซึ่งเป็นตัวเต็งในการเลือกตั้ง จะนำความผันผวนทางการเมืองมาสู่เศรษฐกิจยุโรป เนื่องจากเขามีความเห็นที่แตกต่างจากนายกรัฐมนตรีอังเกล่า แมร์เคล ของเยอรมนี ในบางประเด็นที่มีความสำคัญ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ