นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง กล่าวในรายการ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชนว่า โครงการพักชำระหนี้เกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย 3 ปี คาดว่าจะมีลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 50% เพื่อให้ธนาคารเฉพาะกิจได้ต่อยอดโครงการ และลูกหนี้ สามารถนำเงินที่พักหนี้นำไปต่อยอดลงทุนอื่นๆ จากเดิมที่อาจไม่มีเงินเพียงพอก็สามารถนำเงินส่วนนี้ไปใช้ได้
"ผมว่าระยะ 3 ปีเป็นระยะที่ทุกคนจะลืมตาอ้าปากได้ คิดว่าโครงการนี้จะได้ผล เพราะไม่ได้พักหนี้อย่างเดียว มีการติดตามดูแล เช่น ธนาคารออมสินที่มีหน่วยหมอหนี้ที่จะสามารถส่งเสริมและต่อยอดต่อไปได้" นายวิรุฬ กล่าว
นอกจากนี้ยืนยันได้ว่าโครงกาดังกล่าวจะไม่กระทบต่อฐานะการดำเนินงานของสถาบันการเงินทั้ง 4 แห่ง แต่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจครัวเรือนให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งทุน และไม่ได้มีผลต่อการดูดเงินออกไปจากระบบ
ด้านนายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง กล่าวว่า ผู้ที่มีสิทธืเข้าโครงการต้องหนี้คงค้างไม่เกิน 5 แสนบาท กับธนาคารรัฐ 4 แห่ง คือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอีแบงก์) โดยมี 3.7 ล้านบัญชี แต่ต้องมีการตรวสอบว่าอยู่ในสิทธิเข้าโครงการได้หรือไม่ โดยลูกหนี้สามารถเลือกพักหนี้ ได้ทั้งพักหนี้เงินต้น และลดดอกเบี้ย หรือ ลดดอกเบี้ย แต่ไม่พักเงินต้น แจ้งความจำนงเข้าโครงการตั้งแต่ พ.ค.-ก.ค.
ทั้งนี้มั่นใจโครงการพักหนี้ 3 ปี จะไม่มีปัญหา และไม่ก่อให้เกิดหนี้สียเพิ่มขึ้น เพราะเมื่อเทียบโครงการพักหนี้ปี 44 ทำให้เกิดหนี้เสียเพียงร้อยละ 1.6 และปีนี้จะมีการตรวสอบที่เข้มข้น