บริษัทเนชั่นแนล ไฮโดรคาร์บอน คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของรัฐบาลแคเมอรูนเปิดเผยว่า แคเมอรูนผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเกือบ 10% ในไตรมาแรกปี 2555 แตะที่ 5.78 ล้านบาร์เรล เมื่อเทียบกับ 5.26 ล้านบาร์เรในไตรมาสแรกปี 2554
หากเปรียบเทียบกับการผลิตน้ำมันดิบในไตรมาสที่ 4 ของปีก่อน ซึ่งอยู่ที่ระดับ 5.64 ล้านบาร์เรล ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของแคเมอรูนจะเพิ่มขึ้น 2.3% ในไตรมาสแรกปีนี้
นายอดอลฟี เมาดิกี ประธานของเนชั่นแนล ไฮโดรคาร์บอน กล่าวถึงสาเหตุที่ผลผลิตเพิ่มขึ้นว่า เนื่องจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นในแหล่งริโอ เดล รีย์ และแหล่งเดาอาลา คริบี ในอ่าวกินีในปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี รายได้จากการส่งออกน้ำมันไปยังแอฟริกากลางของแคเมอรูนได้ลดลงเกือบ 50% มาอยู่ที่ 97.54 ฟรังซ์ เมื่อเทียบกับในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
“สาเหตุดังกล่าวเกิดจากการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมต้นน้ำ ซึ่งเป็นผลผลิตที่เพิ่มขึ้น 10,418 บาร์เรลต่อวันโดยไม่มีการขุดเจาะเพิ่มเติมในแหล่งริโอ เดล รีย์" นายเมาดิกีกล่าว
นายเมาดิกีกล่าวเสริมว่า ผลผลิตน้ำมันดิบของแคเมอรูนอาจแตะที่ 90,000 บาร์เรลต่อวัน ณ สิ้นปีนี้จากจำนวน 63,000 บาร์เรลต่อวันในปัจจุบัน หลังจากที่แหล่งน้ำมันหลายแหล่งซึ่งรวมถึงแหล่งริโอ เดล รีย์ ได้เริ่มดำเนินการ
แคเมอรูนเริ่มส่งออกน้ำมันในปี 2520 และมีปริมาณผลผลิตสูงสุดที่ 185,000บาร์เรลต่อวันในปี 2529 ก่อนที่จะลดลงอย่างต่อเนื่องอันเนื่องมาจากถึงจุดอิ่มตัว
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การส่งออกน้ำมันดิบคิดเป็นสัดส่วน 45% ของรายได้จากต่างประเทศของแคเมอรูนและคิดเป็นสัดส่วน 7% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)