รายงานซึ่งเปิดเผยโดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ระบุว่า การใช้น้ำมันดิบและเชื้อเพลิงเหลวของสหรัฐยังคงแสดงให้เห็นถึงการอ่อนตัวในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยการใช้น้ำมันลดลง 670 บาร์เรลต่อวัน หรือ 3.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
EIA เปิดเผยในรายงานแนวโน้มพลังงานระยะสั้น (Short-Term Energy Outlook) ว่า การใช้เชื้อเพลิงทั้งหมดของสหรัฐลดลง 340,000 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็นการลดลง 1.8% เมื่อปีที่แล้ว โดยการลดลงของยอดการใช้น้ำมันเบนซินที่ระดับ 260,000 บาร์เรลต่อวันถือเป็นสัดส่วนใหญ่ของการลดลงทั้งหมด
ทั้งนี้ ในไตรมาสแรกของปีนี้ การใช้น้ำมันเบนซินของสหรัฐลดลง 150,000 บาร์เรลต่อวัน เนื่องจากผู้ขับขี่สหรัฐถูกกดดันจากราคาค้าปลีกน้ำมันเบนซินที่พุ่งสูงขึ้น
รายงานของ EIA ยังระบุอีกว่า การใช้เชื้อเพลิงกลั่นลดลง 150,000 บาร์เรลต่อวัน โดยมีสาเหตุหลักมาจากสภาพอากาศอบอุ่นอย่างผิดปรกติ
สำหรับช่วงที่เหลือของปี 2555 EIA คาดว่า การลดลงของยอดการใช้น้ำมันเบนซินจะชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาร์เรลต่อวัน
แม้มีการตั้งสมมติฐานว่า รายได้ที่สามารถใช้จ่ายได้ (disposable income) จริงในสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.9% ในปีหน้า แต่ EIA กลับคาดว่ายอดการใช้น้ำมันเบนซินจะยังคงดิ่งลง 30,000 บาร์เรลต่อวันในปี 2556
นอกจากนี้ EIA ยังระบุด้วยว่า ประมาณการดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึง "ราคาน้ำมันที่ระดับสูง การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรวัยขับขี่ที่ชะลอตัว และอัตราการประหยัดน้ำมันของรถยนต์ใหม่ที่ดีขึ้นโดยเฉลี่ย" สำนักข่าวซินหัวรายงาน