สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 เดือน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 พ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะผันผวนทางการเมืองในประเทศกรีซ และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในภาคธนาคารของสเปน
ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.48% แตะที่ 1.2940 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3002 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.11% แตะที่ 1.6139 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6156 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.28% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 79.640 เยน จากระดับ 79.860 เยน แต่พุ่งขึ้น 0.50% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9281 ฟรังค์ จากระดับ 0.9235 ฟรังค์
สกุลเงินยูโรร่วงลงหลังจากที่กรีซยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ แม้ว่าการเลือกตั้งได้เสร็จสิ้นลงเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วก็ตาม ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคตของมาตรการรัดเข็มขัดของกรีซ โดยมีรายงานว่านายอเล็กซิส ซิปราส ผู้นำพรรคเลฟท์ โคลิชัน ของกรีซ กำลังเตรียมผลักดันนโยบายเพื่อคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัดด้วยการส่งหนังสือไปยังผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) โดยระบุว่า กรีซไม่มีพันธะผูกพันต่อข้อตกลงช่วยเหลือทางการเงินที่เคยทำไว้กับสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เมื่อพิจารณาจากการที่ชาวกรีซได้ลงคะแนนเสียงในครั้งนี้
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาคการเงินของสเปน หลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลสเปนจะสั่งให้ธนาคารพาณิชย์ของสเปนเพิ่มทุน อีกราว 3.5 หมื่นล้านยูโร (4.548 หมื่นล้านดอลลาร์) เพื่อกันสำรองหนี้อสังหาริมทรัพย์คุณภาพดี ในขณะที่รัฐบาลพยายามควบคุมปัญหาในภาคธนาคาร โดยคาดว่ารัฐบาลสเปนจะประกาศเรื่องนี้หลังการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันศุกร์นี้ และมาตรการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนปฏิรูปภาคธนาคารในวงกว้าง
ข่าวดังกล่าวส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสเปนประเภท 10 ปีพุ่งขึ้นเหนือ 6% ในการประมูลเมื่อวานนี้ ซึ่งทำให้นักลงทุนยิ่งมีความวิตกกังวลมากขึ้นว่า ปัญหาหนี้สาธารณะของสเปนอาจทำให้สถานะการคลังของรัฐบาลสเปนย่ำแย่ลง
สำนักงานศุลกากรของฝรั่งเศสเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนมี.ค.อยู่ที่ 5.72 พันล้านยูโร หรือ 7.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับเดือนก.พ.ที่ระดับ 6.28 พันล้านยูโร นอกจากนี้ รายงานของสำนักงานศุลกากรระบุว่า ยอดการส่งออกเดือนมี.ค.ของฝรั่งเศส ลดลง 1.5% จากเดือนก.พ. มาอยู่ที่ระดับ 3.649 หมื่นล้านยูโร ขณะที่ยอดการนำเข้าเดือนมี.ค.ลดลง 2.6% มาอยู่ที่ระดับ 4.421 หมื่นล้านยูโร
ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนพ.ค.