นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการ บมจ.สหพัฒนพิบูล (SPC) กล่าวว่า การทำธุรกิจในปัจจุบัน ต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง ซึ่งหลักที่จะช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกัน ก็คือ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานไว้ โดยมีความเห็นว่า ความพอเพียง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การประหยัดอดออม การพึ่งพาตนเอง ซึ่งเป็นหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง หากธุรกิจนำไปใช้ ก็จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันได้ และหากประเทศนำไปใช้ก็จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประเทศ
การสร้างภูมิคุ้มกันในระดับประเทศ คือ การลดการพึ่งพาต่างชาติ ในปัจจุบันคนไทยพึ่งพาต่างชาติแทบทุกเรื่อง ทั้งด้านเทคโนโลยี เงินทุน ด้านความรู้ วิทยาการต่างๆ ด้านตลาดในการส่งออกสินค้า รวมถึงด้านอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งๆ ที่เรามีทรัพยากรธรรมชาติ กำลังแรงงาน มีบุคลากรที่มีความรู้ มีองค์ความรู้ และภูมิปัญญา
"แต่ที่ผ่านมาเรามักจะคิดว่าเราไม่มีความสามารถในการคิดค้นหรือสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ด้วยตนเองได้ จึงต้องอาศัยเทคโนโลยี และ know how จากต่างชาติเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ทั้งๆ ที่ตั้งแต่ปี 2534ประเทศเราได้มีการตั้งหน่วยงาน สวทช. ขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ค้นคว้า สร้างสรรค์ผลงาน นวัตกรรมใหม่ๆ ทางวิทยาศาสตร์ แต่ก็ยังไม่เห็นผลงานที่เป็นรูปธรรม เนื่องจากองค์กรนี้ก็ยังขาดการดูแลเอาใจใส่ที่จะนำผลงานที่ค้นคว้าได้ไปขยายผลให้เกิดประโยชน์ด้านธุรกิจจนถึงขั้นนำมาเป็นผลิตผลของประเทศเราเอง
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่เราต้องทำในขณะนี้คือการลดการพึ่งพาต่างๆ เหล่านี้ ในทุกองคาพยพของประเทศต้องพึ่งพิงตนเองให้มากขึ้นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง เพื่อให้ประเทศของเราอยู่รอดและเติบโตอย่างยั่งยืนมั่นคงตลอดไป"นายบุญชัย กล่าว
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. ปูนซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี (SCC) กล่าวว่า เอสซีจีเป็นองค์กรที่ได้นำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการบริหารธุรกิจจนได้รับรางวัลชนะเลิศด้านธุรกิจขนาดใหญ่จากการประกวดผลงานตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงปี 2550 โดยเอสซีจี ยืนยันว่าธุรกิจต่างๆ สามารถนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ได้เพื่อสร้างการเติบโตขององค์กรอย่างมั่นคง
ด้านนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) กล่าวว่า กลุ่ม ปตท.มีบทบาทสำคัญในการนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้โดยผลักดันให้คนในประเทศช่วยกันประหยัดพลังงาน และส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกหรือพลังงานทดแทนในชุมชน เพื่อบรรเทาปัญหาด้านเศรษฐกิจ และเยียวยาสภาวะแวดล้อม โดยได้บรรจุแนวทางการการจัดการพลังงานชุมชนเข้าเป็นยุทธศาสตร์ในโครงการรักษ์ป่า สร้างคน 84 ตำบลวิถีพอเพียง ซึ่งที่ผ่านมา ประสบผลสำเร็จในการผลักดันให้มีการนำพลังงานทดแทนมาใช้ในชุมชน ทั้งพลังงานชีวมวล พลังงานลม และพลังงานน้ำ
ขณะที่ นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการ บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด กล่าวว่า กลุ่มนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในแง่ของความมีเหตุผล การพัฒนาทักษะเพื่อให้รู้จริง ยึดหลักซื่อสัตย์และมีคุณธรรมในการทำธุรกิจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง มีการศึกษาเรื่องความเสี่ยงและสร้างภูมิคุ้มกันไว้ตลอดเวลา การคิดค้นใหม่ๆ อันนำไปสู่การขยายธุรกิจต่อเนื่องจากอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าจากอ้อยอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุดและช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมไปพร้อมๆ กัน
ส่วนนายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บจก.เมืองไทยประกันชีวิต กล่าวว่า เมืองไทยได้ใช้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในด้านความพอประมาณ ได้พัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน และไม่เน้นการกู้ยืมเงิน ด้านความมีเหตุผล ได้วางเป้าหมายในการทำงานอย่างสมเหตุสมผล ชัดเจน บริหารธุรกิจอย่างมีวินัย และลงทุนภายใต้กรอบการลงทุนอย่างเคร่งครัด และด้านการมีภูมิคุ้มกัน ได้บริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด ดำรงเงินกองทุนให้เหมาะสมกับการเติบโตของธุรกิจ
นอกจากนี้ ยังได้มุ่งเน้นการพัฒนาบุคลากร และมุ่งให้ความช่วยเหลือสังคมผ่านโครงการต่างๆ เพื่อสร้างสังคมให้เข้มแข็ง เพราะธุรกิจจะเติบโตอย่างเดียวไม่ได้ สังคมต้องโตไปด้วย
ผลการดำเนินงานโดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้ธุรกิจมีความเข้มแข็งและแข็งแกร่งขึ้น โดยธุรกิจได้ขยับจากอันดับที่ 4 ในปี2007 เป็นอันดับที่ 3 ตั้งแต่ปี 2008 จนถึงปัจจุบัน มีส่วนแบ่งตลาดเพิ่มจาก 6.8% ในปี2007 เป็น 11.5% ในปี 2011 และมียอดรายได้จาก 13,693 ล้านบาท เพิ่มเป็น 37,886 ล้านบาทในปี 2011
นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ (TUF) กล่าวว่า บริษัทได้น้อมนำ “ปรัชญาเศรษกิจพอเพียง" มาเป็นหลักปฏิบัติในการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการทำธุรกิจที่บริษัทมีความชำนาญ และต้องเป็นการลงทุนที่ไม่เกินความสามารถในการรับภาระทางการเงิน เพื่อให้บริหารจัดการความเสี่ยงได้ หมายความว่าจะต้องสร้างธุรกิจบนความพอดี รวมถึงการใช้ทรัพยากรด้วยความพอดี รู้คุณค่า นอกจากนี้ ต้องมีการสร้างสรรค์สินค้าที่ดี มีคุณภาพต่อลูกค้า รวมถึงต้องตั้งอยู่บนหลักธรรมาภิบาล มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
ขณะเดียวกันบริษัทยังได้นำมาประยุกต์ใช้ในเรื่องการพัฒนาองค์กร และพัฒนาบุคคลากรขององค์กร ทุกองค์กรต้องการการเติบโต เพราะฉะนั้นพนักงานก็ต้องการเติบโตเช่นเดียวกัน บริษัทต้องพัฒนาคนให้เก่ง และต้องเก่งบนพื้นฐานของความดี ซึ่งเมื่อสองอย่างมารวมกันแล้วความสุขจะเกิดขึ้น สุขจากการทำงาน และสุขจากการใช้ชีวิตประจำวัน
นอกจากนี้ จากการที่ธุรกิจของบริษัทเกี่ยวข้องกับอาหารทะเล ซึ่งต้องใช้ทรัพยากรสัตว์น้ำจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลาทูน่า จะต้องใช้อย่างพอเพียง เพราะทรัพยากรมีจำจัด ซึ่งได้มีกำหนดนโยบายในการจัดซื้อ การจัดหาวัตถุดิบ หรือการทำประมง เพื่อให้เกิดความสมดุลทางระบบนิเวศวิทยาทางทะเล โดยได้ร่วมมือกับหน่วยงาน REMOs (Regional Fishery Management) ซึ่งเป็นหน่วยควบคุมจำนวนประชากรสัตว์ทะเลและปลาทูน่า และร่วมในองค์กร ISSF: International Sustainable Seafood Foundation ซึ่งเป็นองค์กรที่เกิดจากความร่วมมือกันระหว่างอุตสาหกรรมการผลิตอาหารทะเลและปลาทูน่า 9 แห่งทั่วโลก
"กุญแจแห่งความสำเร็จของการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในทางธุรกิจนั้น ต้องตั้งมั่นบนพื้นฐานของความพอดี ทำธุรกิจด้วยความพอดี ไม่ลงทุนธุรกิจที่ไม่ชำนาญ การใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า พร้อมๆ กับสร้างความสมดุลในระบบ ทำธุรกิจด้วยความโปร่งใส พร้อมยึดมั่นทำธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์ เป็นคนดีของสังคม ของประเทศ ย่อมทำให้ธุรกิจสามารถยืดหยัดและเติบโตอย่างยั่งยืนตลอดไป"นายธีรพงศ์กล่าว
นายฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ไทยเบฟเวอเรจ กล่าวว่า ไทยเบฟได้นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้พัฒนาธุรกิจให้พึ่งตนเอง สร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเอง ด้วยการทำความเข้าใจธุรกิจของตนเอง ทำธุรกิจด้วยความรอบคอบ ไม่ละโมบ หรือทำอะไรที่เกินไปจากขีดความสามารถของตนเอง ซึ่งทำให้มีความแข็งแกร่ง เติบโตได้อย่างมั่นคง และไม่มีความเสี่ยงในการทำธุรกิจ
“ไทยเบฟ ลงทุนทำธุรกิจด้วยการก้าวไปอย่างช้าๆ ไม่ผลีผลาม ไม่ลงทุนในสิ่งที่มองว่าไม่เป็นประโยชน์ ทั้งๆ ที่ไทยเบฟมีฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีโอกาสระดมทุนได้มาก แต่ก็ไม่ทำ ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับเศรษฐกิจพอเพียง ถ้าธุรกิจนำไปประยุกต์ใช้ ก็จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้ธุรกิจ หรือถ้าชาวโลกได้ทำความเข้าใจ และนำไปประยุกต์ใช้ ก็จะช่วยแก้ปัญหาให้กับเศรษฐกิจโลกที่มีปัญหาในปัจจุบัน และทำให้เศรษฐกิจโลกเติบโตได้อย่างมั่งคงได้"นายฐาปนกล่าว