นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวว่า ระบบธนาคารของสหรัฐแข็งแกร่งขึ้นและมีความยืดหยุ่นมากขึ้นซึ่งช่วยให้สามารถฟื้นคืนกลับสู่สภาพเดิมได้เร็วขึ้น แต่ขณะเดียวกัน ธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐยังคงเผชิญกับความท้าทายเกี่ยวกับคุณภาพสินเชื่อและสภาพคล่อง
“ธนาคารต่างๆจะต้องดำเนินการอีกมากเพื่อฟื้นฟูสถานะของตนเองและปรับตัวให้เข้ากับการกำกับดูแลหลังวิกฤตและสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ" เบอร์นันเก้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประจำปีของเฟด สาขาชิคาโก พร้อมกับระบุว่า ธนาคารที่มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งขึ้นจะสามารถปล่อยกู้ได้มากขึ้น ในขณะที่การขยายตัวทางเศรษฐกิจกำลังคืบหน้า
ประธานเฟดยังได้กล่าวถึงการทดสอบภาวะวิกฤติ (stress test) ของธนาคารกลางสหรัฐในปีนี้ ซึ่งผลปรากฏว่า มีธนาคารพาณิชย์รายใหญ่ 15 แห่ง จากทั้งหมด 19 แห่งที่ผ่านการทดสอบ ซึ่งธนาคารที่ผ่านการทดสอบนั้นรวมถึงเจพีมอร์แกน, แบงก์ ออฟ อเมริกา และโกลด์แมน แซคส์ เนื่องจากมีแนวโน้มว่าธนาคารเหล่านี้จะสามารถรักษาสัดส่วนเงินทุนเอาไว้ได้สูงกว่าระดับต่ำสุดของเกณฑ์การทดสอบที่กำหนดไว้
เขากล่าวว่า เงื่อนไขด้านสินเชื่อในสหรัฐได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างมากในหลายด้าน โดยปัจจุบัน ธุรกิจและครัวเรือนจำนวนมากสามารถกู้ยืมเงินได้ง่ายกว่าเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม สินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นข้อยกเว้น โดยประธานเฟดยอมรับว่า เป็นการยากที่สถานการณ์จะพลิกกลับได้อย่างรวดเร็ว อันเนื่องมาจากปัจจัย เช่น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจและตลาดที่อยู่อาศัยชะลอตัว และท่าทีระมัดระวังของผู้ปล่อยกู้ เป็นต้น