นายโรเบิร์ต โซลลิค ประธานธนาคารโลกกล่าวว่า กลุ่มประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนาจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทั่วโลก โดยจะเปลี่ยนไปสู่การค้าในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนามากขึ้นและจะทำให้เศรษฐกิจโลกมีการขยายตัวแบบหลายขั้ว
นายโซลลิคกล่าวว่า แนวโน้มการขยายตัวของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาจะชะลอลง และแนะว่าจีนต้องมุ่งเน้นส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศหรือการใช้จ่ายด้านการลงทุนในประเทศ ขณะที่ละตินอเมริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องกระตุ้นการใช้จ่ายด้านการลงทุนในประเทศ หลังจากที่เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาอยู่ในภาวะเฟื่องฟูที่ได้รับแรงผลักดันจากการส่งออกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
สำหรับสหรัฐ นายโซลลิคกล่าวว่าการให้ความสนใจกับมาตรการระยะส้นจะไม่เพียงพอในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจากมาตรการกระตุ้นในอดีตแทบไม่ส่งผลต่อเศรษฐกิจที่มีภาระหนี้สินระยะยาว และกล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัยในอัตราน้อยมาก จากปัญหาเชิงโครงสร้าง ซึ่งรวมทั้งอุปสรรคด้านภาษีและการคลัง
ส่วนสหภาพยุโรป (อียู) มีปัญหาภายในภูมิภาคหลายประการ ได้แก่ หนี้สาธารณะ ภาคธนาคารที่รับภาระหนี้ดังกล่าว และศักยภาพของประเทศต่างๆในการขยายตัว โดยนายโซลลิคเตือนว่ามาตรการด้านสภาพคล่อง เช่น การจัดสรรสภาพคล่องระยะยาว จะไม่ช่วยขจัดปัญหาของอียู