เจพี มอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐยอมรับว่า ธนาคารขาดทุนอย่างไม่คาดคิดจากการทำธุรกิจเทรดดิ้งเป็นวงเงินทั้งสิ้น 2 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากการเก็งกำไรที่ผิดพลาดในตราสารอนุพันธ์ของ Chief Investment Office ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านบริหารความเสี่ยงของเจพี มอร์แกน
หลังจากที่ได้พิจารณาถึงรายได้ทางด้านหลักทรัพย์อื่นๆแล้ว เจพีมอร์แกนได้ปรับเพิ่มประมาณการการขาดทุนสุทธิของ Chief Investment Office เป็น 800 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ปีนี้ ตรงข้ามกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมีกำไร 200 ล้านดอลลาร์
นายเจมี ไดมอน ประธานบริหารของเจพีมอร์แกนกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเมื่อวานนี้ว่า การขาดทุนครั้งนี้มีสาเหตุมาจาก "ความผิดพลาด, ความประมาท และการตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง"
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาหุ้นเจพีมอร์แกนร่วงลงเกือบ 7% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการปกติ หลังจากที่ธนาคารประกาศตัวเลขขาดทุน ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นอื่นๆในกลุ่มธนาคาร รวมถึงซิตี้กรุ๊ป, โกลด์แมน แซคส์ และแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลงอย่างหนักเช่นกัน