นักวิเคราะห์คาดว่ามีแนวโน้มมากขึ้นที่กรีซจะออกจากยูโรโซน แต่คาดว่าตลาดจะรับมือกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นได้ และสถานการณ์จะไม่รุนแรงถึงขั้นหายนะ
นักวิเคราะห์ให้เหตุผลว่า หลังจากที่ทราบผลการเลือกตั้งในกรีซ ยูโรและตลาดหุ้นยุโรปร่วงลง และมีแรงเทขายพันธบัตรรัฐบาลสเปนและอิตาลีในเบื้องต้น แต่ในที่สุดสินทรัพย์เหล่านี้ก็ฟื้นตัวขึ้น แม้ว่ายังคงมีความไม่แน่นอนอย่างมาก โดยพวกเขาเชื่อว่า หากกรีซต้องออกจากยูโรโซนจริง เงินสดที่ธนาคารกลางได้อัดฉีดจำนวนมากและการที่นักลงทุนได้ลดการถือครองพันธบัตรของกลุ่มประเทศยูโรโซนที่มีหนี้สินสูงอาจจะเป็นปัจจัยที่ช่วยลดความรุนแรงของความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
ปัจจัยดังกล่าวทำให้ตลาดพิจารณาว่า ปัญหาของกรีซเป็นเพียงปัญหาในประเทศหรือปัญหาที่จะส่งผลกระทบไปทั่วยูโรโซนกันแน่
นักวิเคราะห์เชื่อว่า ตราบใดที่ปัญหาของกรีซไม่ได้ลุกลามไปยังสเปนและอิตาลี ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็จะไม่รุนแรงนัก
แต่ถ้าเมื่อใดที่ประเทศใดประหนึ่งออกจากยูโรโซน และมีการลดค่าเงิน ก็จะทำให้ประเทศที่อ่อนแออื่นๆดำเนินการตาม
นักเศรษฐศาสตร์ของซิตี้ปรับเพิ่มความเป็นไปได้ที่กรีซจะออกจากยูโรโซนเป็น 50-75% จากเดิมที่ 50% และคาดว่ากรีซจะออกจากยูโรโซนภายใน 12-18 เดือน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า เป็นการยากที่จะเห็นผลกระทบทางเศรษฐกิจหรือการเงินครั้งใหญ่จากกรีซ สิ่งสำคัญน่าจะอยู่ที่ฝรั่งเศสมากกว่า หลังจากที่นายฟรองซัวส์ ออลลองด์ จากพรรคสังคมนิยมได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสซึ่งเขาคัดค้านการลดยอดขาดดุลลงเร็วเกินไป และสนับสนุนการผลักดันให้เศรษฐกิจขยายตัว