World Marketsสรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ Monday May 14, 2012 06:07 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กลดลงปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบประมาณหนึ่งเดือนเมื่อวันศุกร์ (11 พ.ค.) หลังจากที่หุ้นกลุ่มการเงินถูกเทขายอย่างหนักจนฉุดทั้งตลาดร่วงลงตามไปด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากการที่เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของสหรัฐเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ธนาคารขาดทุนเป็นจำนวนมากจากการซื้อขายหลักทรัพย์ โดยข่าวดังกล่าวบดบังข้อมูลเศรษฐกิจที่เป็นบวกอย่างดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนเม.ย.ที่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวลง 34.44 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 12,820.60 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย. ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 4.60 จุด หรือ 0.34% ปิดที่ 1,353.39 จุด ส่วนดัชนี Nasdaq ขยับขึ้น 0.18 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 2,933.82 จุด จากอานิสงส์หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ปรับตัวขึ้น

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กกลับมาปิดร่วงลงอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ (11 พ.ค.) ซึ่งเป็นผลมาจากข่าวคราวความเคลื่อนไหวที่ไม่สู้จะดีนักในระบบธนาคารของสหรัฐ รวมถึงเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และสถานการณ์ไม่แน่นอนในยุโรป

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปรับตัวลง 11.5 ดอลลาร์ หรือ 0.72% ปิดที่ 1,584 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,572.00-1,595.20 ดอลลาร์

-- สัญญาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ (11 พ.ค.) เนื่องจากวิกฤตหนี้ยุโรปและแนวโน้มการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีนได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน แม้ว่าจะมีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่สดใสก็ตาม

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 95 เซนต์ หรือ 0.98% ปิดที่ 96.13 ดอลลาร์/บาร์เรล สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วง 2.36 ดอลลาร์ หรือ 2.40%

-- สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (11 พ.ค.) เนื่องจากปัญหาวุ่นวายทางการเมืองในกรีซยังไม่ได้ข้อยุติ หลังมีข่าวว่า การเจรจาจัดตั้งรัฐบาลผสมเฮือกสุดท้ายไม่ประสบผลสำเร็จ

ค่าเงินยูโรลดลง 0.12% แตะที่ 1.2919 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2935 ดอลลาร์สหรัฐ และขยับลง 0.07% เมื่อเทียบกับเงินเยน แตะ 103.24 จากระดับ 103.31 เยน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัวเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 79.920 เยน, แข็งค่าขึ้น 0.14% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9297 ฟรังค์ จากระดับ 0.9284 ฟรังค์ และลดลง 0.12% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ 1.0009 จากระดับ 1.0021 ดอลลาร์แคนาดา

ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.45% แตะที่ 1.6071 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6143 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.46% แตะที่ 1.0024 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0070 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนลง 0.09% แตะที่ 0.7836 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7843 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนสามารถพยุงตัวกลับขึ้นมาปิดในแดนบวกเป็นวันที่สองติดต่อกันเมื่อวันศุกร์ (11 พ.ค.) หลังจากที่ปรับตัวลดลงในช่วงแรกของการซื้อขาย โดยได้ปัจจัยหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่ออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเช้าซื้อหุ้นกลุ่ม defensive ซึ่งเป็นหุ้นที่ทนแรงเสียดทานได้ดีในภาวะที่ตลาดมีความผันผวน เช่น กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภค และช่วยชดเชยแรงขายหุ้นกลุ่มธนาคารและเหมืองแร่

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 31.57 จุด หรือ 0.6% ปิดที่ 5,575.52 จุด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ