ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า จีนจะลดสัดส่วนการกันสำรอง (RRR) ลง 0.5% ตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค.เป็นต้นไป
การลดสัดส่วนการกันสำรองดังกล่าวถือเป็นการปรับลดเป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ และจะทำให้ RRR ของสถาบันการเงินขนาดใหญ่ของจีนลดลงมาอยู่ที่ 20% ส่วน RRR ของสถาบันการเงินขนาดกลางและขนาดเล็กจะอยู่ที่ 16.5%
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางนี้มีเป้าหมายที่จะเพิ่มสภาพคล่องเพื่อรับมือกับการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง โดยการลด RRR ลง จะช่วยเพิ่มเงินทุนประมาณ 4 แสนล้านหยวน หรือ 6.34 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่ตลาด
-- เงินเฟ้อของจีนอ่อนตัวลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ 3.4% ในเดือนเม.ย. เนื่องจากสภาพอากาศที่อบอุ่นทำให้ราคาอาหารปรับตัวลง และสร้างความมั่นใจว่า เป้าหมายรายปีของรัฐบาลนั้น จะสามารถบรรลุผลได้
หวาง จุน นักวิจัยของศูนย์การแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศของจีนกล่าวว่า เราคาดว่า ดัชนี CPI จะร่วงลงต่อเนื่องในเดือนพ.ค.และมิ.ย. และอาจจะร่วงลงต่ำกว่าระดับ 3% แต่ก็จะดีดตัวขึ้นในไตรมาส 3 และ 4 พร้อมกับการฟื้นตัวขึ้นของการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
-- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนเม.ย.ของจีนร่วงลงอย่างมาก ขณะที่ผลผลิตมูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรมขยายตัวในอัตราที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี
สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ผลผลิตมูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรมของจีน ขยายตัว 9.3% ในเดือนเม.ย. หลังปรับเงินเฟ้อแล้ว ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ชะลอตัวลง 2.6% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. และยังเป็นตัวเลขการขยายตัวต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2552
ผลผลิตมูลค่าเพิ่มภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 11% ในช่วง 4 เดือนแรก เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยอัตราการขยายตัวนั้นต่ำกว่าการขยายตัวที่ 14.7% ในไตรมาสแรกของปีนี้
-- ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า เงินกู้สกุลหยวนงวดใหม่ในเดือนเม.ย. อยู่ที่ 6.81 แสนล้านหยวน หรือ 1.08 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 6.12 หมื่นล้านหยวน เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าการประเมินของตลาดที่ประมาณ 8 แสนล้านหยวน หลังจากที่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลรายเดือนเกี่ยวกับการลงทุน ผลผลิตอุตสาหกรรม และการบริโภคที่อ่อนแอ
นอกจากนี้ ยอดการปล่อยกู้เดือนเม.ย.ยังเป็นระดับต่ำที่สุดในปีนี้ เมื่อเทียบกับยอดการปล่อยกู้เดือนมี.ค.ที่ 1.01 ล้านล้านหยวน เดือนก.พ.ที่ 7.10 แสนล้านหยวน และเดือนม.ค.ที่ 7.38 แสนล้านหยวน สำนักข่าวซินหัวรายงาน