นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ไม่ได้พิจารณาข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์ที่จะให้สินค้าอาหารปรุงสำเร็จเข้าไปอยู่ในรายการสินค้าควบคุม เพียงแต่ได้มอบหมายให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปหารือกับผู้ประกอบการร้านค้าให้ขายอาหารในราคา ปริมาณ และคุณภาพใกล้เคียงกับของเดิมในปัจจุบัน
แต่ทั้งนี้ หากราคาต้นทุนวัตถุดิบปรับเพิ่มขึ้นก็สามารถปรับราคาขึ้นในระยะสั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่พอจะเข้าใจได้ พร้อมขอความร่วมมือว่าหากเมื่อใดที่ราคาวัตถุดิบปรับลดลงแล้ว ราคาอาหารปรุงสำเร็จก็ควรจะปรับลดลงตามด้วย
รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า อาหารปรุงสำเร็จมีความแตกต่างจากสินค้าควบคุมประเภทอื่น เนื่องจากสินค้าอุปโภคบริโภคในบัญชีสินค้าควบคุมที่มีอยู่ในปัจจุบัน 42 รายการนั้นมีสัดส่วนการคำนวณต้นทุนสินค้าต่อปริมาณที่ชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากอาหารปรุงสำเร็จที่ยังต้องมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาประกอบในการคำนวนราคาด้วย เช่น ค่าเช่าพื้นที่ของแต่ละร้านค้า ดังนั้น จึงมองว่าการประกาศราคาควบคุม หรือราคากลาง หรือราคาแนะนำแก่อาหารปรุงสำเร็จจึงไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งอาหารปรุงสำเร็จเป็นสินค้าที่ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้บริโภคที่จะเลือกซื้อด้วย
"สินค้าควบคุมเดิม 42 รายการเป็นสินค้ามาตรฐาน มีปัจจัยเชิงคุณภาพน้อย เพราะสินค้าเหล่านั้นสามารถประกาศราคาต่อปริมาณเป็นสิ่งที่ทำได้ แต่อาหารสำเร็จรูปสามารถจำหน่ายได้ตั้งแต่ราคาย่อมเยาจนถึงราคาสูงขึ้น...จึงไม่ได้เสนอให้เป็นสินค้าควบคุม เพียงแต่ให้เป็นสินค้าที่ไม่ให้ราคาเพิ่มสูงขึ้น"นายกิตติรัตน์ กล่าว
พร้อมระบุว่า รัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์จะเข้าไปช่วยติดตามด้านราคาจำหน่ายอาหารปรุงสำเร็จ และเรื่องนี้คงไม่จำเป็นต้องนำกลับเข้ามาสู่การพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีใหม่อีกครั้ง