นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รายได้รัฐบาลสุทธิในเดือน เม.ย.55 จัดเก็บได้ 139,520 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 5,648 ล้านบาท ส่งผลให้ในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 55 (ต.ค.54 - เม.ย.55) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 950,682 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 37,544 ล้านบาท
ในเดือนเม.ย.55 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 139,520 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 5,648 ล้านบาท หรือ 4.2% โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 2,341 ล้านบาท หรือ 9.4% เนื่องจากการขยายเวลาการยื่นแบบแสดงรายการและชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาทางอินเทอร์เน็ตจากวันครบกำหนดยื่นแบบฯ อีก 8 วัน ทำให้รายได้จากการยื่นชำระภาษีส่วนหนึ่งเหลื่อมมาเดือนเม.ย.55
อากรขาเข้าจัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ 1,778 ล้านบาท หรือ 21.3% เป็นผลจากการนำเข้ารถยนต์และส่วนประกอบรถยนต์ ซึ่งเป็นสินค้าที่จัดเก็บอากรในอัตราที่ค่อนข้างสูงเพิ่มขึ้นมาก นอกจากนี้ บมจ.ปตท.(PTT)นำส่งเงินปันผลประจำปี 54 ก่อนกำหนด 10,219 ล้านบาท (จากที่ประมาณการว่าจะนำส่งในเดือนพ.ค.55) อย่างไรก็ดี ภาษีน้ำมันยังคงจัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 5,199 ล้านบาท หรือ 51.5% จากการขยายเวลาลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลเหลือลิตรละ 0.005 บาท
สำหรับในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 55 (ต.ค.54 - เม.ย.55) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 950,682 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 37,544 ล้านบาท หรือ 4.1% (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 3.3%) เนื่องจากการจัดเก็บภาษีที่สำคัญส่วนใหญ่สูงกว่าประมาณการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาษีมูลค่าเพิ่ม อากรขาเข้า ภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา รวมทั้งการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจที่สูงกว่าเป้าหมาย ส่วนภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ ได้แก่ ภาษีรถยนต์และภาษีน้ำมัน เป็นผลจากเหตุการณ์น้ำท่วมและการขยายเวลาการลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซล
ส่วนผลการจัดเก็บรายได้ตามหน่วยงานจัดเก็บสรุปได้ ดังนี้ 1.กรมสรรพากร จัดเก็บรายได้รวม 708,289 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 23,112 ล้านบาท หรือ 3.4% (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 10.8%) ภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการ เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่มสูง รองลงมา คือ ภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2. กรมสรรพสามิต จัดเก็บรายได้รวม 211,460 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 13,697 ล้านบาท หรือ 6.1% (ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 21.0%) ภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีน้ำมันและภาษีรถยนต์ ขณะที่ภาษียาสูบ เบียร์ สุรา และเครื่องดื่มจัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย
3.กรมศุลกากร จัดเก็บรายได้รวม 68,183 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 6,833 ล้านบาท หรือ 11.1% (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 16.2%) โดยสินค้าที่จัดเก็บอากรขาเข้าได้สูงเป็น 3 อันดับแรก ได้แก่ รถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ เครื่องจักรกล และเครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบ 4.รัฐวิสาหกิจ นำส่งรายได้ 77,494 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 10,168 ล้านบาท หรือ 15.1% (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 21.7%) เนื่องจากบมจ.กสท โทรคมนาคม การท่าเรือแห่งประเทศไทย และโรงงานยาสูบนำส่งรายได้/จ่ายเงินปันผลสูงกว่าประมาณการ นอกจากนี้ บมจ.ปตท. นำส่งเงินปันผลประจำปี 2554 ก่อนกำหนด 10,219 ล้านบาท
5.หน่วยงานอื่น จัดเก็บรายได้รวม 60,569 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 1,854 ล้านบาท หรือ 3.2% (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 4.1%) 6.การคืนภาษีของกรมสรรพากร 139,331 ล้านบาท ต่ำกว่าประมาณการ 9,898 ล้านบาท หรือ 6.6% 7. การจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ตาม พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจฯ ให้แก่ อปท. ในปีงบประมาณ 2555 ได้มีการจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ อปท. แล้ว 3 งวด เป็นจำนวน 20,615 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 695 ล้านบาท หรือ 3.5%
นายสมชัย กล่าวว่า ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องทั้งการบริโภคและการนำเข้า รวมถึงการดำเนินนโยบายและมาตรการต่างๆ ของรัฐบาล ประกอบกับการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ภายหลังเหตุการณ์อุทกภัยจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ ทำให้กระทรวงการคลังมั่นใจว่าการจัดเก็บรายได้ในปีนี้จะใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1.98 ล้านล้านบาท แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการขยายเวลาการลดภาษีน้ำมันดีเซลก็ตาม