เจพีมอร์แกน เชส เปิดเผยว่า ไอนา ดรูว์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนจะลาออกจากตำแหน่ง เพื่อรับผิดชอบกรณีที่ธนาคารขาดทุนจากการซื้อขายหลักทรัพย์เป็นจำนวนเงินสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์
แถลงการณ์ของธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐระบุว่า ดรูว์ตัดสินใจเกษียณอายุหลังจากที่ทำงานกับบริษัทมานานกว่า 30 ปี โดยแมทท์ ซาเมส หัวหน้าฝ่ายตราสารหนี้ทั่วโลก ธุรกิจวาณิชธนกิจ ของเจพีมอร์แกน เชส จะรับตำแหน่งต่อจากดรูว์
"ไอนา ดรูว์ เป็นหุ้นส่วนที่ยอดเยี่ยมตลอดระยะเวลาหลายปีที่เธอร่วมงานกับเรา แม้จะมีการขาดทุนเกิดขึ้นในช่วงนี้ แต่เหตุการณ์นี้ก็ไม่สามารถทำให้เราลืมผลงานและความทุ่มเทที่ไอนามีให้กับบริษัทได้" เจมี ไดมอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) ของเจพีมอร์แกนระบุในแถลงการณ์
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไดมอนกล่าวว่า เขาผิดเต็มประตูที่ไม่ระแคะระคายเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวจนนำไปสู่การขาดทุนมหาศาล หลังจากที่เขาได้ออกมาปฏิเสธกระแสข่าวลือที่หนาหูก่อนหน้านี้ว่า ธนาคารกำลังเผชิญกับภาวะขาดทุน
โดยก่อนหน้าที่จะมีการออกแถลงการณ์เรื่องการลาออกอย่างเป็นทางการในวันนี้ สื่อในสหรัฐได้รายงานว่า ดรูว์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บริหารเจพีมอร์แกนที่ได้รับค่าจ้างสูงสุด ได้รับข้อเสนอให้ลาออกจากตำแหน่งหลายครั้งหลังจากที่ข่าวเรื่องการขาดทุนได้รับการเปิดเผยเป็นครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
เจพี มอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดในสหรัฐยอมรับว่า ธนาคารขาดทุนอย่างไม่คาดคิดจากการทำธุรกิจเทรดดิ้งเป็นวงเงินทั้งสิ้น 2 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 6 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากการเก็งกำไรที่ผิดพลาดในตราสารอนุพันธ์ของ Chief Investment Office ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านบริหารความเสี่ยงของเจพี มอร์แกน
หลังจากที่ได้พิจารณาถึงรายได้ทางด้านหลักทรัพย์อื่นๆแล้ว เจพีมอร์แกนได้ปรับเพิ่มประมาณการการขาดทุนสุทธิของ Chief Investment Office เป็น 800 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 ปีนี้ ตรงข้ามกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะมีกำไร 200 ล้านดอลลาร์
นายไดมอนกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเมื่อวันพฤหัสบดีว่า การขาดทุนครั้งนี้มีสาเหตุมาจาก "ความผิดพลาด, ความประมาท และการตัดสินใจที่ไม่ถูกต้อง"
หุ้นเจพีมอร์แกนร่วงลงอีก 3% เมื่อตลาดเปิดทำการวันนี้ หลังจากที่ทรุดลงเกือบ 10% เมื่อวันศุกร์ อันเนื่องมาจากข่าวการขาดทุน