กกพ.คาดแต่งตั้งคกก.พัฒนาชุมชนพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าทั่วประเทศได้ครบในพ.ค.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday May 15, 2012 10:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.นฤภัทร อมรโฆษิต รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กกพ.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า(คพรฟ.) ทั่วประเทศแล้ว 37 กองทุน ยังคงเหลือกองทุนพัฒนาไฟฟ้าบริษัทไออาร์พีซี จำกัด ในพื้นที่ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระยอง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จครบทั้ง 38 กองทุนภายในเดือนพ.ค.55 นี้

นอกจากนี้ กกพ.ได้ประกาศจัดตั้งกองทุนพัฒนาไฟฟ้าประเภทโรงไฟฟ้าพลังน้ำเพิ่มเติมอีก 11 กองทุน คือ กองทุนพัฒนาไฟฟ้า โรงไฟฟ้าเขื่อนภูมิพล จ.ตาก, กองทุนพัฒนาไฟฟ้า โรงไฟฟ้าเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์, กองทุนพัฒนาไฟฟ้า โรงไฟฟ้าเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น, กองทุนพัฒนาไฟฟ้า โรงไฟฟ้าเขื่อนสิรินธร จ.อุบลราชธานี, กองทุนพัฒนาไฟฟ้า โรงไฟฟ้าเขื่อนลำตะคอง จ.นครราชสีมา, กองทุนพัฒนาไฟฟ้า โรงไฟฟ้าเขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ, กองทุนพัฒนาไฟฟ้า โรงไฟฟ้าเขื่อนวชิราลงกรณ์ จ.กาญจนบุรี, กองทุนพัฒนาไฟฟ้า โรงไฟฟ้าเขื่อนศรีนครินทร์ และโรงไฟฟ้าเขื่อนท่าทุ่งนา จ.กาญจนบุรี, กองทุนพัฒนาไฟฟ้า โรงไฟฟ้าเขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี, กองทุนพัฒนาไฟฟ้า โรงไฟฟ้าเขื่อนรัชชประภา จ.สุราษฎร์ธานี และกองทุนพัฒนาไฟฟ้า โรงไฟฟ้าเขื่อนบางลาง และโรงไฟฟ้าเขื่อนบ้านสันติ จ.ยะลา

ด้านแหล่งที่มาของเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้านั้น เงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่จะมาจากผู้รับใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าที่นำส่งเงินเข้ากองทุนฯ ตามประเภทเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าในอัตรา 1-2 สตางค์/หน่วย ตั้งแต่การผลิตไฟฟ้าเดือนม.ค.54 เป็นต้นมา ซึ่งกรณีผู้ผลิตไฟฟ้าที่จำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบของการไฟฟ้าเงินในส่วนนี้จะถูกส่งผ่านเป็นต้นทุนค่าไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศ

ปัจจุบันสำนักงาน กกพ. มีเงินที่ได้เก็บรักษาไว้แล้วเกือบ 2,500 ล้านบาท ซึ่ง กกพ.ได้กระจายอำนาจการบริหารเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าให้คณะกรรมการกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศที่มีตัวแทนภาคประชาชนไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 เป็นผู้ดำเนินการ โดยกองทุนประเภท ก จะมีคณะกรรมการในพื้นที่ 2 ชุด คือคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า และคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าตำบล(คพรต.) ส่วนกองทุนประเภท ข จะมีคณะกรรมการเพียงชุดเดียว คือ คพรฟ. ซึ่งที่ผ่านมาการดำเนินงานสรรหา คพรฟ และ คพรต. ถือว่ามีประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง และเป็นที่สนใจและตอบรับจากประชาชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าเป็นอย่างดี

รองเลขาธิการ กกพ. กล่าวถึงการใช้จ่ายเงินของ คพรฟ.ว่า จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักตามที่ กกพ.กำหนด กล่าวคือ เป็นค่าบริหารจัดการของ คพรฟ. ไม่เกิน 15% แล้วแต่ขนาดของกองทุน และอีกหนึ่งส่วนคือค่าดำเนินโครงการชุมชนจำนวนไม่น้อยกว่า 85% ซึ่งจะรอจ่ายให้กับกองทุนฯ ที่มีการทำแผนงานประจำปีเข้ามาเพื่อนำไปพัฒนาพื้นที่ตามความต้องการของประชาชนภายใต้กรอบการจัดสรรเงินใน 11 ด้าน ได้แก่ การส่งเสริมสุขภาพและสุขภาวะ การพัฒนาอาชีพ การพัฒนาการเกษตร การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน การพัฒนาคุณภาพชีวิต การพัฒนาการศึกษา ศาสนา วัฒนธรรมและประเพณีท้องถิ่น การพัฒนาชุมชน การอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม การใช้จ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินและช่วยเหลือผู้ทุกข์ยากเดือดร้อน การพัฒนาศักยภาพของผู้ที่เกี่ยวข้องกับกองทุน และโครงการและแผนงานอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาชุมชนในพื้นที่ประกาศตามที่ กกพ.เห็นชอบ

โดยโครงการชุมชนดังกล่าวจะมาจากการประชาคมหมู่บ้านหรือตำบลและจะต้องผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกองทุนในพื้นที่เพื่อเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดที่โรงไฟฟ้าตั้งอยู่เพื่อให้ความคิดเห็นประกอบก่อนที่จะนำมาเสนอต่อ กกพ. เพื่อพิจารณาอนุมัติในการจ่ายเงินให้กองทุนในพื้นที่บริหารงานต่อไป

"การดำเนินงานของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าที่จัดตั้งขึ้นใหม่นี้ ประชาชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าจะมีส่วนร่วมในการดำเนินงานได้ในทุกขั้นตอน...ทั้งนี้เพื่อให้กองทุนพัฒนาไฟฟ้าเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิต สังคม ชุมชน และสิ่งแวดล้อม ได้ตรงใจตรงกับความต้องการของชุมชน มีประสิทธิภาพ โปร่งใสและตรวจสอบได้" น.ส.นฤภัทร กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ