นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า กรมธนารักษ์ได้สำรองเหรียญกษาปณ์ทุกชนิดเพื่อใช้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจได้อย่างเพียงพอต่อความต้องการของประชาชนและร้านค้า ซึ่งเชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหาที่เป็นสาเหตุทำให้ร้านค้าใช้ปรับขึ้นราคาสินค้าโดยอ้างว่าไม่มีเหรียญทอน
"ชนิดของเหรียญกษาปณ์ที่มีอยู่ไม่มีผลต่อราคาเงินเฟ้ออย่างแน่นอน เพราะเหรียญกษาปณ์เป็นเพียงเครื่องมือสำหรับการแลกเปลี่ยนสินค้าเท่านั้น" รมช.คลัง ระบุ
ปัจจุบัน มีเหรียญแต่ละชนิดราคาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ ดังนี้ เหรียญ 10 บาท มีหมุนเวียนประมาณ 1,580 ล้านเหรียญ, เหรียญ 5 บาท มีหมุนเวียนประมาณ 2,400 ล้านเหรียญ, เหรียญ 2 บาท มีหมุนเวียนประมาณ 995 ล้านเหรียญ, เหรียญ 1 บาท มีหมุนเวียนประมาณ 12,000 ล้านเหรียญ, เหรียญ 50 สต. มีหมุนเวียนประมาณ 2,040 ล้านเหรียญ และเหรียญ 25 สต. มีหมุนเวียน ประมาณ 3,000 ล้านเหรียญ
นายวิรุฬ กล่าวว่า กรมธนารักษ์ยังจ่ายแลกเหรียญเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้เป็นปกติ ซึ่งความต้องการใช้เหรียญแต่ละชนิดราคา เช่น เหรียญ 10 บาท อยู่ที่ 16 ล้านเหรียญต่อเดือน, เหรียญ 5 บาท อยู่ที่ 17 ล้านเหรียญต่อเดือน, เหรียญ 2 บาท อยู่ที่ 14 ล้านเหรียญต่อเดือน, เหรียญ 1 บาท อยู่ที่ 70 ล้านเหรียญต่อเดือน, เหรียญ 50 สต. อยู่ที่ 10 ล้านเหรียญต่อเดือน และเหรียญ 25 สต. จ่ายแลกเดือนละ 12 ล้านเหรียญ ซึ่งขณะนี้กรมธนารักษ์มีปริมาณเหรียญกษาปณ์สำรองเพียงพอที่จะจ่ายแลกให้ประชาชนและห้างร้านต่างๆ ได้จนถึงปี 56
สำหรับการให้บริการจ่ายแลกเหรียญที่มีการรับโอนภารกิจมาจากกรมบัญชีกลางเมื่อต้นเดือนพ.ค.55 ปัจจุบันกรมธนารักษ์มีศูนย์บริหารจัดการเหรียญกษาปณ์ ในส่วนภูมิภาค 6 แห่ง ที่เชียงใหม่, นครสวรรค์, ขอนแก่น, อุบลราชธานี และสงขลา เพื่อให้บริการจ่ายแลกเหรียญแก่ลูกค้ารายใหญ่และรายย่อย และได้ร่วมมือกับธนาคารออมสินในการเป็นหน่วยให้บริการด้านเหรียญกษาปณ์แก่ประชาชนรายย่อยในทุกจังหวัดทั่วประเทศกว่า 900 สาขา ตั้งแต่ 2 พ.ค.55 เป็นต้นมา
นอกจากนั้นยังมีการบริหารจัดการด้วยการจับคู่กลุ่มลูกค้ารายใหญ่ เช่น ธนาคารต่างๆ ซึ่งทำให้มีเหรียญออกสู่ระบบหลากหลายช่องทาง อย่างไรก็ดี ขณะนี้กรมธนารักษ์กำลังดำเนินการและปรับปรุงการให้บริการด้านเหรียญโดยจะจัดจ้างให้เอกชนเข้ามาให้บริการรับแลกจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ประชาชนมากยิ่งขึ้น
อนึ่ง ก่อนหน้านี้นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ออกมาระบุว่าต้องการส่งเสริมให้ใช้เงินเหรียญหมุนเวียนในระบบตลาดมากขึ้น เพื่อช่วยชะลอการปรับขึ้นราคาสินค้า เพราะที่ผ่านมามีราคาสินค้าบางรายการปรับเพิ่มขึ้นทีละ 5-10 บาท ซึ่งสูงเกินต้นทุนที่แท้จริง เพราะผู้ค้าอ้างไม่มีเงินเหรียญทอนให้ กระทรวงพาณิชย์จะเสนอไปยังกระทรวงการคลังให้พิจารณาเพิ่มการผลิตเหรียญให้มากขึ้น