นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 11-16 พ.ค.ที่เริ่มโครงการ"ถูกทั้งแผ่นดิน ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ โดยในหนึ่งสัปดาห์จำหน่ายได้ทั้งสิ้น 47 ล้านบาท โดย จ.พะเยา เป็นจังหวัดที่มียอดการจำหน่ายสูงสุดถึง 6.6 ล้านบาท ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดีที่สามารถช่วยลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชน
ทั้งนี้ จะมีการแถลงสรุปผลการดำเนินงานโครงการ "ถูกทั้งแผ่นดิน" ในเวลา 13.00 น. ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นอกจากนี้ ตนมีแนวคิดที่จะขยายพื้นที่จัดจำหน่าย เพิ่มปริมาณ และชนิดสินค้าที่เข้าร่วมในโครงการถูกทั้งแผ่นดินอีก โดยจะขยายลงไปในพื้นที่ระดับอำเภอที่มีความพร้อมก่อน
นอกจากนี้ ในฐานะที่ตนกำกับดูแลองค์การสะพานปลาก็จะนำสินค้าและผลิตภัณฑ์ด้านการประมง ทั้งประเภทของสดและแปรรูปมาร่วม จำหน่ายในร้านถูกทั้งแผ่นดิน ในราคาพิเศษต่ำกว่าท้องตลาดอย่างน้อย 20-30% ภายใต้แคมเปญ "ขายอีก ก็ถูกอีก"
ส่วนที่มีผู้วิพากษ์วิจารณ์ว่าการนำสินค้ามาจำหน่ายในราคาถูก เป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกจุด แต่รัฐบาลควรไปแก้ปัญหาโดยการควบคุมโครงสร้างราคาพลังงานที่เป็นต้นทุนการผลิตมากกว่า
"นี่เป็นเพียงมาตรการที่ช่วยเสริมกับการที่รัฐบาลได้แก้ปัญหาโดยการบริหารจัดการด้านพลังงาน และการบริหารจัดการต้นทุนสินค้า"รมช.เกษตรฯ กล่าว