นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้หารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งสมาคมธุรกิจผู้ประกอบการผู้ค้ายาง เพื่อกำหนดมาตรการในการแก้ไขปัญหาราคายางพารา หลังในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาราคายางพาราในตลาดมีความผันผวน
เบื้องต้นจะสนับสนุนให้ภาคเอกชนของไทย รวมทั้งรัฐวิสาหกิจในสังกัดไปซื้อยางแผ่นรมควันในสต็อกของตลาดต่างประเทศ 2 แห่ง คือที่โตคอม กับที่เซี่ยงไฮ้ นำกลับเข้ามาประเทศไทย หลังจากนั้นก็ดำเนินการส่งออกไปใหม่ ซึ่งการส่งออกในครั้งนี้จะยกเว้นการเก็บเงินเซส
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรไปศึกษาการดำเนินการตามมติดังกล่าว รวมทั้งจะมอบหมายให้องค์การสวนยางเข้าไปประมูลยางในตลาดกลางอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังได้เร่งขับเคลื่อนโครงการพัฒนาศักยภาพสถาบันเกษตรกรเพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางพารา หรือ โครงการหมื่นห้าพันล้านด้วย เพื่อให้สถาบันเกษตรกรสามารถนำยางเข้ามาขายในโครงการกับองค์การสวนยางได้ทันที ซึ่งขณะนี้ก็รับซื้อยางแผ่นดิบชั้น 3 จากสถาบันเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการในราคาไม่ต่ำกว่า 110 บาท/กก.
พร้อมกันนี้ จะเร่งผลักดันกลไกด้านความร่วมมือระหว่างประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ด้วย เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ราคายางพาราทั้งในระยะนี้และระยะยาวต่อไป