สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) อย่างไรก็ตาม ยูโรยังคงได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากหลังจากฟิทช์ เรทติ้งประกาศลดอันดับเครดิตตราสารหนี้ของกรีซ และมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ปรับลดความน่าเชื่อถือของธนาคารสเปน
ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.66% แตะที่ 1.2777 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.2693 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้น 0.19% แตะที่ 1.5824 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5794 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.39% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 79.020 เยน จากระดับ 79.330 เยน และดิ่งลง 0.62% เมื่อเทียบกับฟรังค์ที่ระดับ 0.9399 ฟรังค์ จากระดับ 0.9458 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียดิ่งลง 0.67% แตะที่ 0.9824 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9890 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 1.11% แตะที่ 0.7551 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7636 ดอลลาร์สหรัฐ
แม้สกุลเงินยูโรฟื้นตัวขึ้น แต่ยูโรยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของปัญหาหนี้ยูโรโซน หลังจากฟิทช์ เรทติ้งประกาศลดอันดับเครดิตตราสารหนี้กรีซจาก B- สู่ CCC โดยระบุว่ผลการเลือกตั้งรัฐสภาในวันที่ 6 พ.ค.แสดงว่า พรรคที่ต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดได้รับการสนับสนุนอย่างมาก และการที่กรีซไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ ทำให้มีความเสี่ยงสำหรับแผนความช่วยเหลือจากสหภาพยุโรป (อียู)-กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) จำนวน 1.73 แสนล้านยูโร นอกจากนี้ หากว่ากรีซไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ในวันที่ 17 มิ.ย. ก็มีความเป็นไปได้ที่กรีซจะออกจากยูโรโซน
ขณะที่มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารพาณิชย์ 16 แห่งของสเปน ซึ่งรวมถึงบังโค ซานตานเดร์ และบังโค บิลบาว วิซคายา อาร์เจนตาเรีย โดยระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ของสเปนยังคงเผชิญกับความยากลำบากในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ ข่าวการระดมเงินทุนในตลาดการเงินยังส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของธนาคารด้วย ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้มูดีส์ตัดสินใจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือในครั้งนี้ มาจากการที่เศรษฐกิจสเปนได้กลับเข้าสู่ภาวะถดถอยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ และคาดว่าเศรษฐกิจยังไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นในปีนี้