มอร์แกน สแตนลีย์เปิดเผยในวันนี้ว่าได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนลงสู่ระดับ 8.5% ในปีนี้ จากเดิมที่ 9% ซึ่งเป็นผลจากการที่เศรษฐกิจชะลอตัวลงมากเกินคาดในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ และการผ่อนคลายนโยบายที่ล่าช้ากว่าคาด
คาดการณ์ล่าสุดมีขึ้น ขณะที่จีดีพีของจีนในไตรมาสแรกขยายตัวแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 3 ปีที่ 8.1% และข้อมูลในเดือน เม.ย.ยังคงบ่งชี้ถึงความเสี่ยงขาลงสำหรับเศรษฐกิจจีน
เมื่อพิจารณาจากภาวการณ์ดังกล่าว มอร์แกน สแตนลีย์ระบุว่าเป็นเรื่องยากที่จีนจะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ 9% ที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ แต่ยังคงมีมุมมองบวกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค อันเนื่องมาจากการดำเนินมาตรการผ่อนคลายด้านนโยบายมากขึ้น
“ขณะที่มีการดำเนินมาตรการด้านนโยบายมากขึ้น เราเชื่อว่าการขยายตัวของจีดีพีจีนได้แตะระดับต่ำสุดแล้วในขณะนี้ และจะเห็นการปรับตัวเร็วขึ้นในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้" มอร์แกน สแตนลีย์ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่ง
มอร์แกน สแตนลีย์คาดว่าจะมีการดำเนินนโยบายเชิงรุกมากขึ้นเพื่อหนุนการเติบโตของอุปสงค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการเติบโตอ่อนแอลงต่อไป และสถานการณ์ต่างประเทศเลวร้ายลง
“เราเชื่อว่า ธนาคารกลางจีนจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินกู้และเงินฝากลง 2 ครั้งในปีนี้ ประเภทละ 0.25%"
ทั้งนี้ มอร์แกน สแตนลีย์ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์จีดีพีของจีนในปี 2556 จาก 8.6% สู่ระดับ 9% ขณะที่คาดว่าการกระตุ้นเชิงนโยบายจะส่งผลบวกไปจนถึงปีหน้า