ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรแข็งเทียบดอลล์ ขณะตลาดจับตาประชุมผู้นำยูโรโซน

ข่าวต่างประเทศ Tuesday May 22, 2012 07:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (21 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนชะลอการทุบขายสกุลเงินยูโร ก่อนที่การประชุมผู้นำกลุ่มยูโรโซจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้

ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.20% แตะที่ 1.2808 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันศุกร์ที่ 1.2782 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลง 0.11% แตะที่ 1.5832 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5815 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.35% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 79.290 เยน จากระดับ 79.010 เยน และร่วงลง 0.20% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9375 ฟรังค์ จากระดับ 0.9394 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.67% แตะที่ 0.9908 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9842 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 1.23% แตะที่ 0.7640 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7547 ดอลลาร์สหรัฐ

นักลงทุนชะลอการเทขายสกุลเงินยูโร พร้อมกับจับตาดูการประชุมระหว่างนายโวล์ฟกัง ชอยเบิล รมว.คลังเยอรมนี และนายปิแอร์ มอสโควิซี รมว.คลังฝรั่งเศส ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเบอร์ลิน ขณะที่กลุ่มผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) เตรียมจัดการประชุมที่กรุงบรัสเซลล์ในวันที่ 23 พ.ค.นี้

ยูโรได้รับแรงหนุนหลังจากมีรายงานว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายของยุโรปจะสนับสนุนโครงการเงินฝากของธนาคารในยุโรป ซึ่งแผนการดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่าเป็นสัญญาณเชิงบวก เพราะเป็นปกป้องผลประโยชน์ของลูกค้าที่ฝากเงินในธนาคาร และยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่กลุ่ม G8 ได้สนับสนุนให้กรีซยังคงอยู่ในกลุ่มยูโรโซนต่อไป พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะหนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการจ้างงานในยูโรโซน

นายจอร์จ อัสมุสเซน สมาชิกสภาบริหารของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า เป็นสิ่งจำเป็นอย่างเร่งด่วนที่ยุโรปต้องดำเนินการกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือถาวรของภูมิภาค ตามกำหนดในวันที่ 1 ก.ค.นี้ เพื่อจัดการกับวิกฤตหนี้ยูโรโซน

นอกจากนี้ นายอัสมุสเซนยังเรียกร้องประเทศสมาชิกให้ดำเนินการสนธิสัญญาทางการคลังเพื่อสร้างเสถียรภาพด้านงบประมาณ โดยระบุว่าการเสริมความแข็งแกร่งด้านงบประมาณและการส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจควรดำเนินการควบคู่กัน อย่างไรก็ตาม การดำเนินการ ESM ตามกำหนดยังมีความไม่แน่นอน เนื่องจากกลุ่มผู้คัดค้านในรัฐสภาเยอรมนีขู่ที่จะชะลอการลงมติเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือดังกล่าว

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐดีดตัวขึ้นหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกเปิดเผยว่า ดัชนีการผลิตทั่วประเทศเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 0.11 จุด ในเดือนเม.ย.จากระดับ -0.44 จุดในเดือนมี.ค.

นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนหลังจากผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ ซึ่งจัดทำโดยสมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐระบุว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าตัวเลขจ้างงานของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละ 188,000 ตำแหน่ง ซึ่งตัวเลขดังกล่าวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 170,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 8% แทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากอัตราว่างงานในเดือนเม.ย.ที่ระดับ 8.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยแนวโน้มดังกล่าวจะช่วยหนุนเศรษฐกิจสหรัฐให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง

ผลสำรวจยังบ่งชี้ว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.3% ในปีนี้ ซึ่งเท่ากับตัวเลขคาดการณ์ในเดือนก.พ. และคาดว่าจะขยายตัว 2.7% ปีหน้า ขณะเดียวกันคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะยังคงอยู่ในกรอบเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ระดับ 2% ในปีหน้า แต่ถึงกระนั้นก็ตาม คาดว่าอัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับสูงจะจำกัดการขยายตัวของการใช้จ่ายผู้บริโภค

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนพ.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ