สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ในวันนี้กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า สินทรัพย์สุทธิในต่างประเทศของญี่ปุ่น ณ ปลายปี 2554 เพิ่มขึ้น 0.6% สู่ 253.01 ล้านล้านเยน (3.19 ล้านล้านดอลลาร์) จากปีก่อน ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบสองปีจากการที่มีบริษัทญี่ปุ่นจำนวนมากขึ้นเข้าลงทุนในการควบรวมและการเข้าซื้อกิจการในต่างประเทศ
กระทรวงการคลังยังเผยอีกว่า สินทรัพย์สุทธิซึ่งถือครองโดยบริษัท รัฐบาล และบุคคลรายย่อยของญี่ปุ่น มียอดสูงสุดเป็นอันดับสองรองจากระดับ 266 ล้านล้านเยน ณ ปลายปี 2552 โดยยอดรวมล่าสุดบ่งชี้ว่าประเทศญี่ปุ่นยังคงครองสถานะเป็นผู้ให้สินเชื่อรายใหญ่ที่สุดของโลกนับเป็นเวลา 21 ปี
ส่วนอันดับสองคือประเทศจีน ซึ่ง ณ สิ้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมามีมูลค่าสินทรัพย์ในต่างประเทศอยู่ที่ 137 ล้านล้านเยน ตามมาด้วยเยอรมนีที่ 93 ล้านล้านเยน ส่วนอังกฤษและอิตาลี มีมูลค่าหนี้สินมากกว่าสินทรัพย์ ในขณะที่บางประเทศในตะวันออกกลางไม่เปิดเผยรายงานตัวเลขดังกล่าว
สินทรัพย์ในต่างประเทศของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 3.3% สู่ 582.48 ล้านล้านเยน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นรายปีเป็นปีที่สามติดต่อกัน โดยมีมูลค่าสูงกว่าหนี้สินซึ่งอยู่ที่ 329.38 ล้านล้านเยน เพิ่มขึ้น 5.5% เป็นการเพิ่มขึ้นปีที่สองติดต่อกัน
การเพิ่มขึ้นของมูลค่าสินทรัพย์ดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการปล่อยสินเชื่อมากขึ้นโดยธนาคารของญี่ปุ่นในต่างประเทศ รวมทั้งการเพิ่มขึ้นของทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของรัฐบาล สืบเนื่องจากการแทรกแซงตลาดสกุลเงินของญี่ปุ่นเพื่อขายเยนแลกกับดอลลาร์